การแขวนสตั๊ดไม่เคยอยู่ในความคิดของ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ แม้ว่าวัยจะล่วงเลยเข้าสู่ 34 ปีแล้วก็ตาม นักเตะผู้เป็นสัญลักษณ์ของยูเวนตุส ไม่ต้องการพ่ายสังขารตัวเองเพียงเท่านี้
ความเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ, ลูกผู้ชายที่แข็งแกร่ง, นักเตะผู้ทุ่มเท, สัญลักษณ์ของทีมและความมุ่งมั่น ทั้งหมดได้ส่งผ่านร่างกายของเขาให้สวมชุดเบียงโคเนรี่อันเป็นที่รักลงนำทีมสู้ศึกต่อไป
หลังจากเหตุการณ์อื้อฉาวผ่านพ้นไป พร้อมการที่สโมสรต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องถูกลงโทษหนักเบาไปตามแต่ความผิดที่ได้ทำไว้ คาเปลโล่ตัดสินใจทิ้งยูเวนตุสเพื่อกลับไปรับงานคุม "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด
ทำให้สโมสรต้องการ เดล ปิเอโร่ กลับมาเป็นผู้นำของทีมเต็มตัวอีกครั้งกัปตันทีมเบียงโคเนรี่ เรียกศรัทธากลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ระเบิดฟอร์มช่วยสโมสรคว้าแชมป์เซเรีย บี และจบฤดูกาลในฐานะดาวซัลโวสูงสุด ก่อนครองตำแหน่ง "คาโปคานโนนิเอ
เร่" เป็นครั้งแรกในชีวิตด้วยผลงาน 21 ประตูในฤดูกาลแรกที่ขุนพล"ม้าลาย" เลื่อนชั้นกลับมาสู่เซเรีย อา กลายเป็นคนเดียวที่เป็นดาวซัลโวลีกทั้ง 2 ระดับติดต่อกัน
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงยิงประตูกับยูเวนตุสได้มากมายในช่วงเวลานี้" เดล ปิเอโร่ พยายามถ่อมตัวก่อนจะอธิบายต่อว่า "ผมยังคงเล่นในบทบาทเดิมเหมือนที่เคยเป็นมา นั่นก็คือ กองหน้าตัวต่ำ แต่ความจริงมีบางครั้งที่ผมลงมายืนในตำแหน่งที่ลึกกว่าสมัยก่อน"
ถ้วย "บิ๊ก เอียร์ส" ถือเป็นความทรงจำมากมายสำหรับ อเล็กซ์ จากการที่เขาเป็น 1 ใน นักเตะที่ร่วมนำยูเว่ เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 3 ฤดูกาลติดต่อกันระหว่างปี 1996-98
"ผมชอบที่ได้เล่นเคียงข้างกับ ซีเนดีน ซีดาน ผมยังคิดถึง อันเจโล่ ดิ ลิวิโอ เรารู้จักกันมาก่อน เพราะเกิดที่ปาโดว่าเหมือนกัน และเราก็นอนห้องเดียวกันเวลาออกไปเตะนัดเยือน เขาถือเป็นแบบอย่างให้ผมก้าวเดินตาม"
ทุกวันนี้ เดล ปิเอโร่ คือแบบอย่างของนักเตะดาวรุ่งในถิ่นตูริน โอลิมปิก เซบาสเตียน โจวินโก้ ยอมรับว่าเขาได้เรียนรู้เทคนิคการเล่นมากมายจากกัปตันทีม และเพลย์เมกเกอร์ร่างเล็กยังถูกคาดหมายว่าจะขึ้นมาสืบทอดเสื้อหมายเลข 10 ในวันหนึ่ง
ข้างหน้า "อีก 5 ปีข้างหน้าผมคงไม่อยู่ที่นี่แล้ว แต่โจวินโก้จะขึ้นมาแทน" อเล็กซ์ รับประกันฝีเท้าของดาวเตะรุ่นน้อง
อย่างไรก็ตามวันใดวันหนึ่งเวลาแห่งการจากลาต้องมาถึง ยูเวนตุส ต้องหาจอมทัพคนใหม่เข้ามานำทีม ทั้งหมดคือความจริงที่ เดล ปิเอโร่ เตรียมใจมาตลอด
"ผมรู้ว่ามันคงจะเป็นความรู้สึกแปลกๆ หากวันหนึ่งผมไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอีกแล้ว แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกกลัวเรื่องนี้เลย เวลาที่ผมจะต้องเลิกเล่นจะต้องมาถึง แค่เพียงไม่ใช่วันนี้เท่านั้น"
แต่บรรดาแฟนบอลเบียงโคเนรี่คงไม่อยากให้เกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้แน่นอน...
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านต่อได้ใน นิตยสารสตาร์ซอคเก้อร์ รายสัปดาห์
ได้ทุกแผงหนังสือใกล้บ้านท่าน
ขอขอบคุณ http://www.siamsport.co.th/Column/090220_070.html
เพื่อการแสดงผลหน้าเว็ป SPVARIETY ที่ถูกต้องท่านควรใช้ IE8 Firefox & Google Chrome
Download Browsing Click Here
This page is optimized for IE8 Firefox & Google Chrome
Download Browsing Click Here
เขียนโดย sp ที่ 13:37
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น