บอร์ด กทช.มีมติให้ผู้ประกอบการกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ คิดค่าบริการโทรเครือข่ายเดียวกัน-ข้ามเครือข่าย ในอัตราเพดานสูงสุด 3 บาทเท่ากัน รอเวลาดำเนินการ ขณะที่มีโอเปอร์เรเตอร์บางรายไม่เห็นด้วยเพิ่มภาระผู้บริโภค...
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2553 นายพิทยาพล จันทนะสาโร รองเลขาธิการ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กล่าวว่า จากกรณีคณะกรรมการ (บอร์ด) กทช. มีมติให้ผู้บริการเครือข่าย (โอเปอเรเตอร์) โทรศัพท์มือถือ ยกเลิกการออกโปรโมชันโทรในเครือข่าย-ข้ามเครือข่าย (ออนเน็ต-ออฟเน็ต) นั้น ล่าสุด วันที่ 12 พ.ค. ที่ประชุมบอร์ดมีมติให้ผู้ประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องคิดค่าบริการดังกล่าวในอัตราเท่ากัน ซึ่งปกติแล้วผู้บริโภคจะไม่ทราบว่าเลขหมายที่เรียกไปนั้นเป็นการเรียกภายในโครงข่ายเดียวกันหรือต่างโครงข่ายกัน ทำให้ผู้บริโภคไม่ทราบว่าการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละครั้งเป็นการให้บริการประเภทใดและมีอัตราค่าบริการเท่าใด
รองเลขาธิการ กทช. กล่าวต่อว่า ช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานสูงสุดกับช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานน้อยยังไม่ได้กำหนดค่าบริการ เพราะเรื่องดังกล่าว ถือเป็นรายละเอียดย่อย ดังนั้น โอเปอร์เรเตอร์ จึงต้องหารือเพื่อศึกษารายละเอียดเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการกำหนดให้บริการออนเน็ต- ออฟเน็ต เป็นอัตราที่เท่ากันในอัตราสูงสุด 3 บาทต่อนาที
ก่อนหน้านี้มี ตัวแทนทั้ง 3 โอเปอร์เรเตอร์คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค และ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด เข้าหารือ กับ กทช. โดยสาระสำคัญของการหารือส่วนใหญ่เป็นการชี้แจงของ กทช. ในการออกมติดังกล่าว แต่ในส่วนของโอเปอร์เรเตอร์เอง ยังมีบางรายไม่เห็นด้วย และบอกว่าเป็นการก้าวก่าย ขณะที่โอเปอร์เตอร์ได้กำหนดคิดค่าเชื่อมโยงโครงข่ายอินเตอร์คอนเนคชั่นชาร์จ (ไอซี) ไว้ที่ 1.07 บาท ต่อนาที ซึ่งถือเป็นต้นทุนขั้นต่ำอยู่แล้ว
นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มพาณิชย์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า การยกเลิกค่าบริการบริการออนเน็ตและออฟเน็ตเป็นอัตราเดียวนั้น ต้องรอดูคำสั่งที่ชัดเจนจาก กทช. ขณะนี้ยังไม่ได้รับคำสั่งใดๆ จึงไม่สามารถคาดการณ์แนวทางดำเนินการหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเนื่องจาก พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 บริการ ประเภทเดียวกันจะต้องมีอัตราค่าบริการเดียวกัน ประกอบกับเคยมีผู้รับบริการร้องเรียนเรื่องการคิดค่าบริการในและนอกเครือข่ายต่างกัน และ กทช.ได้นำเรื่องมาเมื่อพิจารณากระทั่งสามารถหาข้อสรุปได้ใน กทช.ชุดนี้
"การยกเลิกดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ เพราะสามารถปรับขึ้นราคาค่าบริการให้เท่ากับต้นทุนค่าไอซี 1 บาท จากเดิมค่าบริการออนเน็ตเฉลี่ยอยู่ที่นาทีละ 0.25 บาท ค่าบริการออฟเน็ตอยู่ที่นาทีละ 1 บาท แม้อัตราค่าบริการจะถูกคุมให้อยู่ในอัตราเดียวกัน แต่เชื่อว่า กทช.จะสามารถอนุญาตให้เอกชนทำโปรโมชันสำหรับการแข่งขันได้ ผู้ประกอบการได้เข้าพบ กทช. เมื่อวันที่ 11 พ.ค. โดย กทช.ระบุว่าจะพบผู้ประกอบการบ่อยขึ้นเพื่อทำความเข้าใจและรับฟังปัญหาจากเอกชนก่อนจะมีการลงมติใดๆ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง" นายธนากล่าว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความเห็นจากประชาชนผู้ใช้บริการต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า กทช.คงไม่มีงานทำ มติครั้งนี้จะส่งผลกระทบคือผู้ประกอบการจะได้รับประโยชน์เนื่องจากสามารถปรับราคาออนเน็ตและออฟเน็ตขึ้นมาเท่าอัตราต้นทุนไอซี แต่ผู้บริโภคจะแย่เพราะต้องจ่ายค่าบริการสูงขึ้นโดยไม่สามารถออกมาโต้แย้ง เพราะสมาคมผู้บริโภคไทยยังอ่อนแอ ซึ่งผู้ประกอบการรายเล็กจะอยู่ในตลาดอย่างลำบาก เพราะไม่สามารถทำราคาให้สามารถแข่งขันกับรายใหญ่ได้ ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหม่ก็จะหมดสิทธิ์เข้าสู่ตลาดได้ นอกจากนี้การกระทำดังกล่าวของ กทช.อาจขัดต่อเจตนารมณ์ส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.thairath.co.th/content/tech/82522
This page is optimized for IE8 Firefox & Google Chrome
ศูนย์ข่าวศรีราชา - ลูกเสือชาวบ้าน ไม่พอใจ ส.ส.ชลบุรี ไม่แสดงความจงรักภักดีสถาบัน ขณะร่วมงานปิดการฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้าน ผู้ร่วมพิธีนับร้อยคน ยืนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี แต่ “ส.ส.ธนโรจน์ โรจนกุลเศรษฐ์” กลับนั่งนิ่งเฉย ด้าน ส.ส.แจง ยืนยัน จงรักภักดีต่อสถาบัน แต่ที่ไม่ได้ยืนตรงเพราะช่วงพิธีดังกล่าวไม่เกี่ยวกับตน
วันนี้ (5 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก คณะวิทยากรฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้าน และลูกเสือชาวบ้านรุ่น 357 ชลบุรี จำนวนมาก ว่าไม่พอใจ นายธนโรจน์ โรจนกุลเศรษฐ์ ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ อย่างมาก เพราะไม่แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งที่มาร่วมเป็นเกียรติในพิธีรับผ้าผูกคอพระราชทานและพิธีปิดการฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้าน ณ วัดสามัคคีบรรพต ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
การฝึกลูกเสือชาวบ้านก็เพื่อให้ประชาชนรวมเป็นพลังสามัคคี เทิดทูน เชิดชู จงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยมีเจ้าอาวาสวัดเขาคันธมาทน์ เจ้าอาวาสวัดสามัคคีบรรพต อยู่ในพิธี นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี มาเป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรม นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ กล่าวรายงาน นายภิญโญ สายนภา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี พื้นที่อำเภอสัตหีบ และผู้มีเกียรติจำนวนมากร่วมในพิธี ซึ่งมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายที่เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายเอาไว้ทั้งหมด ยืนยันแน่ชัดว่า ส.ส.ธนโรจน์ นั่งอยู่ท่ามกลางสายตาประชาชนที่ดูแคลน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามคณะวิทยากรฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้าน ซึ่งล้วนแล้วเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นข้าราชการครู ที่ร่วมในพิธี ทุกคน ตลอดจนลูกเสือชาวบ้านรุ่นเก่า และรุ่นใหม่ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองที่เห็นภาพ ส.ส.ธนโรจน์ นั่งนิ่งเฉยชนิดไม่ยินดียินร้ายไม่ลุกขึ้นยืน ขณะทุกคนยืนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี สายตาทุกคู่ที่พบเห็นได้แสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างมาก จะรวมตัวกันเข้าไปถามแต่ก็เกรงว่าจะเกิดปัญหาเพราะเป็นถึงระดับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
แต่ทำไมถึงได้ขาดภาวะผู้นำ มารยาทสังคม การไม่แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน การกระทำอย่างนี้จะให้ลูกเสือชาวบ้านคิดอย่างไร แต่ก่อนหน้าที่จะร้องเพลิงสรรเสริญพระบารมี ได้มีการสวดมนต์ก็เห็นว่า ส.ส.ธนโรจน์ ลุกขึ้นยืนสวดมนต์แสดงให้เห็นว่าเป็นชาวพุทธ แต่ไฉนไม่แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ซึ่งจะต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบด้วย
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายภิญโญ สายนภา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ว่า ขณะที่ ส.ส.ธนโรจน์ มาร่วมในพิธีรับผ้าผูกคอพระราชทานลูกเสือชาวบ้าน บนศาลาการเปรียญวัดสามัคคีบรรพต มีอาการเจ็บป่วย หรือมีการบาดเจ็บที่ขาบ้างหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่า ปกติดี จึงได้สอบถามต่ออีกว่า เห็นว่า ส.ส.ธนโรจน์ นั่งนิ่งเฉยขณะที่ ทุกคนที่อยู่ในพิธียืนร้องเพลิงสรรเสริญพระบารมีจริงหรือไม่ ซึ่ง นายภิญโญ ตอบว่าจริง อีกทั้งเห็น ส.ส.ธนโรจน์ นั่งนิ่งเฉย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า ส.ส.ธนโรจน์ เห็นว่าตัวเองไม่มีผ้าผูกคอ ไม่ได้เป็นลูกเสือชาวบ้าน ก็เลยไม่ลุกขึ้นยืนให้การเคารพตามธรรมเนียมปฏิบัติของคนไทย ที่ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การกระทำของ ส.ส.ธนโรจน์ ครั้งนี้อาจจะเป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ทุกสายตาที่พบเห็นแสดงออกถึงความไม่พอใจ มีการพูดคุยกันในวงกว้างว่า เป็นถึง ส.ส.ไม่น่าแสดงออกอย่างนี้ ต้องการให้ ส.ส.ชี้แจงให้ประชาชนทราบด้วยว่า ทำอย่างนี้เพื่ออะไร เพราะ สส.เป็นคนที่ประชาชนเลือกเข้าไป
ด้าน นายธนโรจน์ โรจนกุลเสฎฐ์ ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ได้มีกระแสข่าวลูกเสือชาวบ้าน คณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ร่วมพิธีจำนวนมากไม่พอใจกรณีที่ไม่ได้ยืนตรงขณะที่มีการร้องเพลิงสรรเสริญพระบารมี ในพิธีรับผ้าผูกคอพระราชทานและปิดการฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้านอำเภอสัตหีบ ยอมรับว่า ไม่ได้ยืนตรงจริง เพราะเห็นว่าพิธีนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเองเพียงเข้ามาร่วมงาน และสังเกตการณ์ในการฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้านที่ค่อนข้างพบปัญหา ก็คือ มีคนเข้าร่วมฝึกอบรมน้อยมาก และได้เชิญ นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เป็นประธาน ซึ่งส่วนมากที่มาร่วมงานเป็นอดีตลูกเสือชาวบ้าน ผู้บริหารชมรมลูกเสือชาวบ้าน ทุกคนผ่านการเป็นลูกเสือ มีเพียงตัวเองคนเดียวที่ไม่เคยเป็นลูกเสือชาวบ้าน จึงไม่ได้ยืนตรงขณะร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งขอยืนยันว่า ยังมีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อยู่ตลอดเวลา
สาเหตุที่เดินทางมาร่วมงาน เพราะมีคนโทร.ไปแจ้งว่า มีประชาชนเข้ามาฝึกลูกเสือชาวบ้านน้อย จึงได้เดินทางมาสังเกตการณ์ และเข้าไปร่วมงานด้วย ปัญหาที่พบก็คือ มีประชาชนเข้ามาฝึกอบรมน้อย เพื่อจะนำเรื่องนี้เข้าเสนอในสภาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาให้โรงงานอุตสาหกรรมอนุญาตให้คนงานออกมาฝึกอบรมลูกเสือ โดยไม่คิดเป็นวันหยุดแต่อย่างใด แต่เมื่อเข้ามาร่วมพิธีลูกเสือ ทุกครั้งที่มีวิทยากรสั่งยืนตรง สั่งทำความเคารพ และร้องเพลงก็มีแต่คำว่าลูกเสือ ในฐานะที่ตัวเองไม่ได้เป็นลูกเสือ เป็นเพียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาร่วมพิธีจึงคิดว่าพิธีนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเอง ยอมรับว่า ไม่ได้ยืนทำความเคารพ แต่มิได้หมายความว่าไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Manager.co.th
