เพื่อการแสดงผลหน้าเว็ป SPVARIETY ที่ถูกต้องท่านควรใช้ IE8 Firefox & Google Chrome

Download Browsing Click Here

This page is optimized for IE8 Firefox & Google Chrome

WHO จ่อเพิ่มระดับเตือนภัย อันตรายสูงสุด หวัดเม็กซิโกลามไม่หยุด

ยอด”จังโก้”ตายพุ่ง176ศพ “สวิส-เปรู”เจอแล้วผู้ติดเชื้อ สธ.สารภาพมีโอกาสถึงไทย ปั้มยาล้านแคปซูลรอรับมือ พบเด็กไทยป่วยญี่ปุ่นสั่งกักตัว สำนักข่าวบีบีซี นิวส์ ออนไลน์ รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เพิ่มระดับเตือนภัยการระบาดของไข้หวัดหมู หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก จากระดับ 4 เป็นระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับอันตรายที่สุดลำดับ 2 เพราะการแพร่ลามของโรคใกล้เข้าสู่จุดของการเป็นโรคระบาดไปทั่วโลกแล้ว โดยมีการแพร่เชื้อจากมนุษย์สู่มนุษย์ในอย่างน้อย 2 ประเทศ

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

WHO เปลี่ยนชื่อ ไข้หวัดหมู เป็น ไข้หวัดใหญ่ A (H1N1)

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่า นับจากนี้ไป WHO จะเรียกชื่อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่มีต้นตอในเม็กซิโกและได้แพร่ระบาด ลุกลามไปในหลายภูมิภาคของโลกว่า “ไข้หวัดใหญ่ A (H1N1)” หรือ influenza A (H1N1) จากที่เคยเรียกว่า “ไข้หวัดหมู” หรือ swine flu เนื่องจากชื่อเดิมได้สร้างความสับสนว่าโรคดังกล่าวเกิดจากหมู ทั้งที่จริงแล้วไวรัสนี้เกิดจากการการรวมกันของไวรัสในหมู คน และนก จึงทำให้เกิดไวรัสกลายพันธุ์

WHO ชี้แจงด้วยว่า ขณะนี้ ได้ตรวจพบเชื้อไวรัสนี้ในคนเท่านั้น และไม่พบว่าหมูป่วยเป็นโรคนี้ ดังนั้นการบริโภคเนื้อหมูที่ปรุงสุก จึงไม่มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส พร้อมกันนี้ ยังได้มีการนำภาพหมูออกจากเว็บไซต์ www.who.int/en ด้วย
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกได้รับแรงกดดันจากผู้เลี้ยงสุกรและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้รับผลกระทบหลังจากที่หลายประเทศได้ระงับการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐ อเมริกาและเม็กซิโก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวมาก ที่สุด และมีผู้เสียชีวิตแล้วด้วย
ความเคลื่อนไหวของ WHO ในครั้งนี้ยังมีขึ้นหลังจากที่วานนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ออกแถลงการณ์ที่ทำเนียบขาวว่า รัฐบาลสหรัฐตัดสินใจเปลี่ยนชื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก หรือไข้หวัดหมู (swine flu) เป็น “ไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1″ เพื่อแก้ความเข้าใจผิดที่ว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เกิดจากหมู จนทำให้บางประเทศยกเลิกนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐ

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

สธ.ผลิตยาสู้หวัด 1ล้านเม็ด สั่งทุกรพ.รับมือ

จัดเตรียมห้องปลอดเชื้อ เผยมี30เม็กซิกันอยู่ไทย “ฮู”ปรับระดับเตือนภัยขั้น5 มะกันตั้งชื่อ”2009เอช1เอ็น1″ สาธารณสุขสั่งผลิตยา 1 ล้านเม็ดหรือ 1 แสนชุดสู้ภัยไข้หวัดหมู พร้อมยกระดับเตรียมความพร้อมจากระดับกรมเป็นระดับกระทรวง สั่งทุกโรงพยาบาลจัดห้องปลอดเชื้อรับมือถ้าหากเกิดระบาดในเมืองไทย ด้านกทม.เพิ่มเป็น 5 แสนชิ้นหน้ากาก ให้ติดต่อรับได้ที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขทุกแห่ง ด้านแพทย์ไทยผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อจากคนสู่คนระบุเมืองไทยมีสิทธิ์จะระบาด สูง ส่วนผลการตรวจพิสูจน์ชาวออสซี่ไข้สูง 39 องศา ล่าสุดสถาบันบำราศนราดูรชี้เป็นหวัดปกติ มะกันเปลี่ยนชื่อเรียกหวัดหมูเป็นเชื้อ 2009เอช1เอ็น1 หลังธุรกิจฟาร์มหมูได้รับผลกระทบหนัก

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

ฮ่องกงตั้งศูนย์ฮอตไลน์ให้บริการข้อมูลไข้หวัดเม็กซิโกแก่ประชาชน

ศูนย์ป้องกันด้านสาธารณสุขแห่งฮ่องกงเปิดเผยว่า ฮ่องกงเตรียมจัดตั้งศูนย์ฮอตไลน์เพื่อให้คำแนะนำและตอบข้อซักถามของประชาชน ที่มีอาการคล้ายกับติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก (swine flu) หรือ ไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1 หลังจากประชาชนเหล่านี้ได้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส ชนิดดังกล่าว
“เราขอความร่วมมือให้ประชาชนที่มีอาการคล้ายติดเชื้อไวรัสและได้เดินทางไป ยังพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาดในระยะเวลา 7 วันก่อนหน้านี้ โทรมาที่หมายเลข 2125 111 เพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่ในการติดตามผล โดยสายด่วนฮอตไลนจะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และถือเป็นแผนกหนึ่งของกระทรวงสาธารณสุข เขตปกครองพิเศษฮ่องกง” กระทรวงสาธารณสุขฮ่องกงกล่าวในแถลงการณ์
ฮ่องกงเคยได้รับผลกระทบอย่างหนักเมื่อครั้งที่โรคซาร์สระบาดในปีพ.ศ.2546 จึงทำให้ฮ่องกงมีความตื่นตัวในเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1 ที่คร่าชีวิตชาวเม็กซิโกไปแล้ว 159 คนและชาวสหรัฐอีก 1 คน โดยฮ่องกงจัดตั้งจุดวัดอุณหภูมิร่างกายที่บริเวณชายแดน และกำหนดให้ที่จะเดินทางเข้ามาในฮ่องกงยื่นรายงานด้านสุขภาพ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ แม้ยังไม่มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดเม็กซิโกในฮ่องกง แต่กระทรวงสาธารณสุขได้ สั่งการให้ตรวจร่างกายนักท่องเที่ยว 7 คน ซึ่งปรากฏว่ามี 5 คนที่ผ่านการตรวจร่างกาย ส่วนอีก 2 คนยังคงอยู่ในระหว่างการติดตามผล สำนักข่าวซินหัวรายงาน

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

มะกันสั่งปิดรร.300แห่งสกัดหวัดเม็กซิโกระบาด

ขณะที่มีรายงานยืนยันผู้ติดเชื้อถึง 118 คนแล้วในสหรัฐฯ โดยที่นิวยอร์ก มีรายงาน 50 ราย และเท็กซัส 26 ราย ขณะที่รมต.สธ.เม็กซิโก เผยการระบาดหวัดสายพันธุ์ใหม่ในประเทศเริ่มซาลงแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ได้ประกาศปิดโรงเรียน 300 แห่ง ใน 11 รัฐทั่วประเทศ เป็นการชั่วคราวในวันพฤหัสบดีที่ 30 เม.ย.ท่ามกลางความวิตกเรื่องการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยโรงเรียนส่วนใหญ่ที่ต้องปิดการเรียนการสอนอยู่ในรัฐนิวยอร์ก และเท็กซัส ขณะที่มีรายงานยืนยันผู้ติดเชื้อถึง 118 คนแล้วในสหรัฐฯ โดยที่นิวยอร์ก มีรายงาน 50 ราย และเท็กซัส 26 ราย? ส่วนทารกชาวเม็กซิกันรายหนึ่งมาเสียชีวิตในรัฐเท็กซัส

รายงานข่าวระบุว่า การปิดโรงเรียนส่งผลต่อนักเรียนราว 169,000 คน จากนักเรียนทั่วประเทศจำนวน 55 ล้านคน และคาดว่าบางโรงเรียนจะเปิดเรียนได้ในปลายสัปดาห์ นอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้อตามมหาวิทยาลัยด้วย โดยเฉพาะที่รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ยังไม่ได้ประกาศปิดเรียน

ขณะที่นายโฮเซ แองเกล คอร์โดวา รัฐมนตรีสาธารณสุขของเม็กซิโก เปิดเผยในวันเดียวกันว่า ขณะนี้การพบกรณีผู้ติดเชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ชนิด A รายใหม่อยู่ในระดับคงที่ ขณะที่อัตราการเสียชีวิตด้วยโรคระบาดไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ก็แทบไม่ เคลื่อนไหวในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แต่ยังต้องรอดูอีก 2-3 วันต่อไปว่า เชื้อไวรัสหวัดมรณะลดการแพร่ระบาดลงจริงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก (WHO)ยังไม่วางใจและยังคงเฝ้าจับตามองสถานการณ์การแพร่ระบาด ในเม็กซิโกต่อไปอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างทวีปอเมริกา หรือไอดีบี ประกาศจะอนุมัติเงินกู้ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้เม็กซิโก เพื่อช่วยเหลือในการต่อสู้กับโรคระบาดและกู้วิกฤติเศรษฐกิจ.

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

จีนเสนอช่วยเม็กซิโก 5 ล้านดอลล์ เห็นใจถูกไข้หวัดหมูรุมเร้า

กระทรวงต่างประเทศของจีนเปิดเผยว่า รัฐบาลจีนจะให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่เม็กซิโกเป็นมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์เม็กซิโก (swine flu) ได้สร้างความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับเม็กซิโกอย่างมาก
ทั้งนี้ ความช่วยเหลือฉุกเฉินดังกล่าวแบ่งเป็นเงินสด 1 ล้านดอลลาร์ และสิ่งของมูลค่า 4 ล้านดอลลาร์
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดในเม็กซิโกนั้น โฮเซ อังเกล คอร์โดบา รมว.สาธารณสุขเม็กซิโกคาดการณ์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจพุ่งขึ้นเป็น 159 ราย จากปัจจุบันที่ 152 ราย ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในเม็กซิโกอยู่ที่ 1,995 ราย สำนักข่าวซินหัวรายงาน

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

กทม.แจก 1 แสนชิ้น หน้ากาก สาวไทยไม่หวัดหมู

หมอรพ.จุฬาแถลงยืนยัน บินไทย-ฉีดฆ่าเชื้อเครื่อง มะกันตายแล้ว-ลามเบียร์
ไทยโล่งอกผลการตรวจรักษาสาวไทยที่บินไปเม็กซิโกติดเชื้อกลับมา หมอโรงพยาบาลจุฬาฯแถลงผลตรวจพิสูจน์ไม่ใช่ไข้หวัดหมู แค่หวัดธรรมดาอีก 2-3 วันก็ให้กลับบ้านได้ สาธารณสุขพร้อมรับคนไทยในเม็กซิโกกลับ เบื้องต้นส่งหน้ากากป้องกันเชื้อไปให้ 5 พันชุด ขณะที่ กทม.รับมือเชื้อโรคพันธุ์ใหม่ รณรงค์แจกหน้ากาก 1 แสนชิ้นให้แท็กซี่-นักท่องเที่ยวกลุ่มเสี่ยง เผยเชื้อยังลาม มะกันมีตายแล้ว 1 ศพ ขณะที่เยอรมนีติดเชื้อ 3 คน อียิปต์ผวา รมว.สาธารณสุขสั่งฆ่าหมูทั่วประเทศ 2.5 แสนตัว

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

ตายเป็นรายแรกเด็กสหรัฐเซ่นหวัดเม็กซิโกประกาศภาวะฉุกเฉินแคลิฟอร์เนีย ทั้งรัฐจังโก้-สังเวย159ศพหมอจุฬาฯชี้ผลตรวจหญิง42ไม่ได้ติดเชื้อ

เด็ก 2 ขวบ เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกหรือไข้หวัดหมูมรณะ เป็นรายแรกของสหรัฐฯ หลังเดินทางกลับจากแดนจิงโจ้ ส่วนรัฐแคลิฟอร์เนียระทึก ผู้ว่าการรัฐประกาศภาวะฉุกเฉินหลังโรคลามระบาดหนัก ขณะที่ผู้เสียชีวิตในเม็กซิโกพุ่งขึ้นไปเป็น 159 ศพแล้ว ทางการเม็กซิโกยังเพิ่มมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดมรณะเข้ม งวดขึ้นอีก และสั่งปิดสถานที่สาธารณะโรงยิม โรงภาพยนตร์ทั่วกรุงเม็กซิโกซิตี้ สภาหอการค้าเม็กซิโกประเมินมาตรการคุ้มเข้มทำให้สูญเสียรายได้อย่างน้อยวัน ละ 2,000 ล้านบาท ด้านนานาชาติประกาศห้ามเที่ยวบินเข้าแผ่นดินเม็กซิโก สาวจุฬาฯที่ต้องสงสัยติดหวัดหมูที่แท้ไข้หวัดใหญ่ธรรมดา กระทรวงสาธารณสุขสุด ฟิต เตรียมพร้อมเต็มที่สั่งสาธารณสุขจังหวัดกระจายยาต้านไวรัสทุกโรงพยาบาล “เสธ.หนั่น” ถกคณะกรรมการ “หวัดเม็กซิโก” นัดแรกเห็นชอบ 7 มาตรการหลักคุมโรค เตรียมของบกลาง 120 ล้านบาทดำเนินการกระทรวงการต่างประเทศขอหน้ากากอนามัยช่วยคนไทยในแดนจังโก้ 5 พันชุด

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

ถึงคิวมะกันตายรายแรกเหยื่อหวัดหมูWHOจ่อเพิ่มระดับเตือนภัย

สกัดไม่อยู่ระบาดไปทั่วโลก โล่งอกหญิงไทยไม่ติดเชื้อ
การระบาดอย่างหนักของเชื้อไข้หวัดหมู หรือไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ที่ขยายวงกว้างไปทั่วโลก ทำให้องค์การอนามัยโลกอาจจะยกระดับเตือนภัยไข้หวัดหมูจากระดับ 4 เป็นระดับ 5

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

พลิกไข้หวัดหมูฟื้นท่องเที่ยว สศค.ยอมรับไตรมาสแรกจีดีพีติดลบสูงสุดในรอบปี

สศค.แนะพลิกวิกฤติหวัดเม็กซิโกเป็นโอกาส ดันสร้างรายได้ท่องเที่ยวไทย ขณะที่จีดีพีไตรมาสแรกติดลบสูง 5% เชื่อเป็นจุดต่ำสุด ระบุไตรมาส 2 เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวจากส่งออกดี ด้าน “มาร์ค” เล็งสรุปแหล่งเงินกู้ 1.56 ล้านล้านชง ครม.สัปดาห์หน้าพร้อมระบุตัวเลขเลิกจ้างงาน มี.ค. ปรับดีขึ้น

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

ยอดประเทศที่พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกรายใหม่พุ่งเป็น 11 ประเทศ

ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ที่เป็นที่รู้จักกันทั้งใน ชื่อไข้หวัดหมูและไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกกำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยมีประเทศที่ได้ยืนยันเรื่องการระบาดถึง 11 ประเทศแล้วจนถึงช่วงเช้าวันนี้ โดยมีเปรูเป็นประเทศรายล่าสุดที่ได้รับผลกระทบจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ดังกล่าว โดยสนัข่าวของสเปนรายงานว่า หญิงชาวอาร์เจนติน่า ซึ่งได้เดินทางจากเม็กซิโกมายังสนามบินของเปรูนั้น ได้รับการยืนยันแล้วว่า ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก

องค์การอนามัยโลก (WHO) และสหรัฐได้รายงานผลการตรวจสอบจากห้องทดลองว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ชนิดเอ แล้ว 91 ราย ขณะที่เม็กซิโกได้ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกอยู่ที่ 26 ราย และล่าสุดพบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกในสหรัฐเป็นรายแรกแล้ว เป็นเด็กอายุ 23 เดือน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ประเทศที่ได้รับการยืนยันเรื่องการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกแต่ยังไม่มี ผู้เสียชีวิตได้แก่ ออสเตรีย แคนาดา เยอรมนี อิสราเอล นิวซีแลนด์ สเปน อังกฤษ และคอสตา ริก้า
นอกจากนี้ ประเทศในทวีปต่างๆที่ได้รายงานว่าพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อได้แก่ ประเทศในแถบอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง ยุโรป แอฟริกา เอเชีย และโอเชียเนีย
เมื่อวานนี้ WHO ได้ประกาศเพิ่มระดับการเตือนภัยไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก (swine flu) จากระดับ 4 เป็น 5 ซึ่งบ่งชี้ว่าไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกใกล้จะเกิดการระบาดทั่วโลก โดยการตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นภายหลังการประชุมฉุกเฉินของคณะนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดที่เมือเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เสร็จสิ้นลงเมื่อคืนนี้
นอกจากนี้ ในขณะที่การระบาดของไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลายลง WHO จึงแนะนำให้ประชาชนล้างมือด้วยสบู่แลน้ำเป็นประจำ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและการติดเชื้อ และหากมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดก็ให้ไปพบแพทย์

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

WHO จ่อเพิ่มระดับเตือนภัย อันตรายสูงสุด หวัดเม็กซิโกลามไม่หยุด

ยอด”จังโก้”ตายพุ่ง176ศพ “สวิส-เปรู”เจอแล้วผู้ติดเชื้อ สธ.สารภาพมีโอกาสถึงไทย ปั้มยาล้านแคปซูลรอรับมือ พบเด็กไทยป่วยญี่ปุ่นสั่งกักตัว สำนักข่าวบีบีซี นิวส์ ออนไลน์ รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เพิ่มระดับเตือนภัยการระบาดของไข้หวัดหมู หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก จากระดับ 4 เป็นระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับอันตรายที่สุดลำดับ 2 เพราะการแพร่ลามของโรคใกล้เข้าสู่จุดของการเป็นโรคระบาดไปทั่วโลกแล้ว โดยมีการแพร่เชื้อจากมนุษย์สู่มนุษย์ในอย่างน้อย 2 ประเทศ

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

WHO เปลี่ยนชื่อ ไข้หวัดหมู เป็น ไข้หวัดใหญ่ A (H1N1)

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่า นับจากนี้ไป WHO จะเรียกชื่อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่มีต้นตอในเม็กซิโกและได้แพร่ระบาด ลุกลามไปในหลายภูมิภาคของโลกว่า “ไข้หวัดใหญ่ A (H1N1)” หรือ influenza A (H1N1) จากที่เคยเรียกว่า “ไข้หวัดหมู” หรือ swine flu เนื่องจากชื่อเดิมได้สร้างความสับสนว่าโรคดังกล่าวเกิดจากหมู ทั้งที่จริงแล้วไวรัสนี้เกิดจากการการรวมกันของไวรัสในหมู คน และนก จึงทำให้เกิดไวรัสกลายพันธุ์
WHO ชี้แจงด้วยว่า ขณะนี้ ได้ตรวจพบเชื้อไวรัสนี้ในคนเท่านั้น และไม่พบว่าหมูป่วยเป็นโรคนี้ ดังนั้นการบริโภคเนื้อหมูที่ปรุงสุก จึงไม่มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส พร้อมกันนี้ ยังได้มีการนำภาพหมูออกจากเว็บไซต์ www.who.int/en ด้วย
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกได้รับแรงกดดันจากผู้เลี้ยงสุกรและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้รับผลกระทบหลังจากที่หลายประเทศได้ระงับการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐ อเมริกาและเม็กซิโก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวมาก ที่สุด และมีผู้เสียชีวิตแล้วด้วย
ความเคลื่อนไหวของ WHO ในครั้งนี้ยังมีขึ้นหลังจากที่วานนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ออกแถลงการณ์ที่ทำเนียบขาวว่า รัฐบาลสหรัฐตัดสินใจเปลี่ยนชื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก หรือไข้หวัดหมู (swine flu) เป็น “ไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1″ เพื่อแก้ความเข้าใจผิดที่ว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เกิดจากหม

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

สธ.ผลิตยาสู้หวัด 1ล้านเม็ด สั่งทุกรพ.รับมือ

จัดเตรียมห้องปลอดเชื้อ เผยมี30เม็กซิกันอยู่ไทย “ฮู”ปรับระดับเตือนภัยขั้น5 มะกันตั้งชื่อ”2009เอช1เอ็น1″ สาธารณสุขสั่งผลิตยา 1 ล้านเม็ดหรือ 1 แสนชุดสู้ภัยไข้หวัดหมู พร้อมยกระดับเตรียมความพร้อมจากระดับกรมเป็นระดับกระทรวง สั่งทุกโรงพยาบาลจัดห้องปลอดเชื้อรับมือถ้าหากเกิดระบาดในเมืองไทย ด้านกทม.เพิ่มเป็น 5 แสนชิ้นหน้ากาก ให้ติดต่อรับได้ที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขทุกแห่ง ด้านแพทย์ไทยผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อจากคนสู่คนระบุเมืองไทยมีสิทธิ์จะระบาด สูง ส่วนผลการตรวจพิสูจน์ชาวออสซี่ไข้สูง 39 องศา ล่าสุดสถาบันบำราศนราดูรชี้เป็นหวัดปกติ มะกันเปลี่ยนชื่อเรียกหวัดหมูเป็นเชื้อ 2009เอช1เอ็น1 หลังธุรกิจฟาร์มหมูได้รับผลกระทบหนัก

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

ฮ่องกงตั้งศูนย์ฮอตไลน์ให้บริการข้อมูลไข้หวัดเม็กซิโกแก่ประชาชน

ศูนย์ป้องกันด้านสาธารณสุขแห่งฮ่องกงเปิดเผยว่า ฮ่องกงเตรียมจัดตั้งศูนย์ฮอตไลน์เพื่อให้คำแนะนำและตอบข้อซักถามของประชาชน ที่มีอาการคล้ายกับติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก (swine flu) หรือ ไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1 หลังจากประชาชนเหล่านี้ได้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส ชนิดดังกล่าว
“เราขอความร่วมมือให้ประชาชนที่มีอาการคล้ายติดเชื้อไวรัสและได้เดินทางไป ยังพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาดในระยะเวลา 7 วันก่อนหน้านี้ โทรมาที่หมายเลข 2125 111 เพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่ในการติดตามผล โดยสายด่วนฮอตไลนจะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และถือเป็นแผนกหนึ่งของกระทรวงสาธารณสุข เขตปกครองพิเศษฮ่องกง” กระทรวงสาธารณสุขฮ่องกงกล่าวในแถลงการณ์
ฮ่องกงเคยได้รับผลกระทบอย่างหนักเมื่อครั้งที่โรคซาร์สระบาดในปีพ.ศ.2546 จึงทำให้ฮ่องกงมีความตื่นตัวในเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1 ที่คร่าชีวิตชาวเม็กซิโกไปแล้ว 159 คนและชาวสหรัฐอีก 1 คน โดยฮ่องกงจัดตั้งจุดวัดอุณหภูมิร่างกายที่บริเวณชายแดน และกำหนดให้ที่จะเดินทางเข้ามาในฮ่องกงยื่นรายงานด้านสุขภาพ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ แม้ยังไม่มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดเม็กซิโกในฮ่องกง แต่กระทรวงสาธารณสุขได้ สั่งการให้ตรวจร่างกายนักท่องเที่ยว 7 คน ซึ่งปรากฏว่ามี 5 คนที่ผ่านการตรวจร่างกาย ส่วนอีก 2 คนยังคงอยู่ในระหว่างการติดตามผล สำนักข่าวซินหัวรายงาน

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

จี้สาธารณสุขเตือนภัยไข้หวัดหมู กรมปศุสัตว์สั่งคุมหมูตายทั่วปท.

หมอจุฬาฯ-ศิริราช-รามาฯ แจ้งพบผู้ป่วยไข้หวัดหมูจากการติดเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส ไทป์ II เข้ารับการรักษาทุกปี ทั้งเชื้อรุนแรง-ไม่รุนแรง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนสัมผัสกับหมู ชี้โอกาสโรครุนแรงเหมือนจีน "อาจ" เกิดขึ้นได้ จี้รัฐบาลแจ้งเตือนให้ความรู้คน ด้านกรมปศุสัตว์ทำหนังสือด่วนถึงปศุสัตว์จังหวัดทั่วประเทศ ขอให้ติดตามการตายของหมูเป็นพิเศษแล้ว

การติดเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส หรือ Streptococcus suis ไทป์ II หรือโรคไข้หวัดหมู ที่ติดจากหมูสู่คนในมณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 36 คนแล้วนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ท่ามกลางความสงสัยที่ว่ามีปัจจัยอื่นอีกหรือไม่ที่ทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรง โดยนายบ็อบ ไดเอตซ์ โฆษกขององค์การอนามัยโลก (WHO) ถึงกับออกมาระบุว่า "อาจจะ" มีแบคทีเรีย/ไวรัสชนิดอื่นๆ หรือสารพิษบางอย่าง หรือเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งแวดล้อมที่มณฑลเสฉวน ซึ่งช่วยเกื้อกูลให้เกิดการติดต่ออย่างรุนแรง

ในขณะที่ประเทศไทย แม้จะพบเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส ไทป์ II ทั้งในหมูและมีรายงานทางการแพทย์ว่า ติดต่อสู่คนที่เกี่ยวข้องกับฟาร์ม-โรงฆ่า และเขียงหมู รวมไปถึงการบริโภคเนื้อหมู/เลือดหมูสดในอาหารจำพวกลาบดิบ/หลู้แล้วก็ตาม แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า ในกรณีนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขยังไม่มีการออกมาเคลื่อนไหว ทั้งการให้ความรู้หรือแจ้งเตือนคนไทยแต่อย่างใดทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่โรคนี้เป็นโรคที่พบได้ภายในประเทศ ซึ่งเกิดติดต่อกันเป็นประจำมาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา เพียงแต่อาการของโรคไม่รุนแรงเท่ากับที่เกิดในจีน แต่ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูงมากโรคหนึ่ง

นายยุคล ลิ้มแหลมทอง อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การระบาดของเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) ในประเทศจีนนั้น สิ่งที่กรมปศุสัตว์เป็นห่วงก็คือ ไม่รู้ว่าจีนเป็น Streptococcus suis type II หรือเปล่า เพราะเป็นการระบาดที่รุนแรง แต่ถ้าเป็น type II เป็นเรื่องที่พบเป็นปกติในสุกรไทยอยู่แล้ว ถ้าสถานที่เลี้ยงสุกรสกปรก ไม่ได้มาตรฐาน เชื้อจะมีอยู่ในสิ่งแวดล้อมในธรรมชาติ แต่การเกิดโรคในประเทศไทยสามารถควบคุมได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะและไม่ได้เกิดการระบาด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางกรมปศุสัตว์ได้มีหนังสือส่งไปยังปศุสัตว์จังหวัดทั่วประเทศให้มีการเฝ้าระวังตรวจสอบซุ่มเก็บตัวอย่างตลอด โดยเฉพาะหากมีลูกหมูตาย นอกจากนี้ได้พยายามให้มีการประชาสัมพันธ์ไปยังคนเลี้ยงหมูให้มีการป้องกันด้วย

นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ยังเร่งปรับปรุงเรื่องมาตรฐานโรงฆ่าหมูให้เข้าสู่มาตรฐาน เพราะคนที่เสี่ยงมีโอกาสติดเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส ไทป์ II จะเป็นคนที่ฆ่าหมูและคนเลี้ยงมากกว่าคนทั่วไป แต่การปรับปรุงโรงฆ่าที่ผ่านมาก็มีปัญหา ผู้ประกอบการโรงฆ่าสัตว์ยังไม่ยอมลงทุนปรับปรุง และกรมปศุสัตว์ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักเพราะกฎหมายที่กระทรวงมหาดไทยโอนอำนาจการควบคุมโรงฆ่าสัตว์มาให้ทางกรมปศุสัตว์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานั้น ยังคงให้อำนาจกับองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลโรงฆ่าสัตว์ในพื้นที่อยู่

ทางด้านนายแพทย์อนันต์ จงเถลิง หัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้ดูแลศูนย์สเตรปโตคอกคัส (Streptococcus) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การระบาดของเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส ซูอิส ไทป์ II ในประเทศจีนนั้น หากถามว่าประเทศไทยน่าห่วงหรือไม่ ก็คงต้องบอกว่า "น่าห่วงเช่นกัน" เพราะโอกาสที่เชื้อจะเกิดความรุนแรงขึ้นในประเทศไทยกับในประเทศจีนมีเท่าๆ กัน เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีใครทราบว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้ สเตรปโตคอกคัส ซูอิส ไทป์ II เกิดการระบาดที่รุนแรง ทำไมจึงมีคนอ่อนแอจำนวนมากที่ติดเชื้อแล้วเสียชีวิต ภูมิคุ้มกันที่เปลี่ยนไป หรือภูมิคุ้มกันลดลงเกิดจากอะไร

"ผมคิดว่า ด้วยวิถีชีวิตการเลี้ยงหมูและการบริโภคหมูของคนไทยกับคนจีนไม่ได้แตกต่างกันมากนัก จึงค่อนข้างน่าเป็นห่วง แต่ไม่ได้ต้องการให้คนแตกตื่นหรือหวาดกลัว อีกกรณีที่ผมกังวลก็คือ กรณีเชื้อดื้อยา ซึ่งเคยพบในคนไข้ที่โรงพยาบาลจุฬาฯมาแล้ว" นายแพทย์อนันต์กล่าว

สำหรับตัวเลขผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคสเตรปโตคอกคัส ซูอิส ไทป์ II ที่เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ในปี 2548 จากเดือนมกราคมถึง ปัจจุบันมีประมาณ 5 ราย แม้จะไม่มาก เพราะยังไม่มีการเก็บตัวเลขรายงานที่สมบูรณ์ ดังนั้นอาจจะถึงเวลาที่ต้องมาให้ความสนใจกันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะหน่วยงานทางด้านเกษตรที่ดูแลเกี่ยวกับการเลี้ยงสุกรน่าจะมีการประกาศเตือนและเตรียมความพร้อมรับมือ โดยการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างจริงจังมากกว่าที่เป็นอยู่

ทั้งนี้ ทางศูนย์สเตรปโตคอกคัสมีความกังวลว่า ในปี 2548 มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส ไทป์ II จากหมู เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬา ลงกรณ์ถึง 5 ราย ถือเป็นสัญญาณไม่ดี หากเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยปี 2547 มีเพียง 2 ราย ปี 2546 มี 1 ราย ปี 2544 มีประมาณ 9 ราย และปี 2543 มีประมาณ 8 ราย โดยภาวะการติดเชื้อที่พบชนิดที่รุนแรงมีประมาณ 30% ของผู้ป่วยที่มาเข้ารับ การรักษา หากดูสถิติคนไข้ที่มารับการรักษาเฉลี่ยมีทุกวัยตั้งแต่อายุ 1 เดือนถึง 75 ปี ทั้งเด็ก-คนแก่ และชายฉกรรจ์ ดังนั้นหากเฉลี่ยการติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส ไทป์ II ในขณะนี้ถือว่าไม่มาก

ศาสตราจารย์นายแพทย์อมร ลีลารัศมี อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันทางโรงพยาบาลยังพบผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อ สเตรปโตคอกคัส ซูอิส อยู่เรื่อยๆ แต่เรียกได้ว่าเป็นการพบประปรายประมาณ 5-10 คนต่อปี หรืออาจจะมากกว่านั้น แต่เนื่องจากการเพาะเชื้อทำได้ไม่ดี ทำให้ไม่มีรายงานตัวเลขการติดเชื้อที่ชัดเจน โดยทั่วไปการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส ซูอิส ที่พบในคนไข้ของศิริราชพยาบาลมีทั้งชนิดที่รุนแรงและไม่รุนแรง สำหรับชนิดรุนแรงเท่าที่พบเฉลี่ยมีประมาณ 20-30% ของผู้ป่วยที่มารับการรักษา โดยชนิดของเชื้อที่รุนแรงมักจะขึ้นไปที่เส้นประสาท คนไข้ส่วนใหญ่ที่หายแล้วจะหูหนวกหรือหูตึง บางรายที่มีอาการสูญเสียการทรงตัวในช่วงแรกด้วย แต่พอจะรักษาให้ดีขึ้นได้

"สถิติคนไข้ที่มารับการรักษาที่ศิริราชพยาบาลนั้น เท่าที่ตรวจสอบประวัติพบว่าส่วนใหญ่มีอาชีพชำแหละหมูขายในตลาดสดและแม่บ้านที่ทำอาหาร โดยลักษณะของการติดเชื้อเกิดจากการสัมผัส เชื้อจะเข้าทางบาดแผลที่บริเวณมือและหลังมือ" ศาสตราจารย์นายแพทย์อมรกล่าว

ส่วนผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์สุพจน์ ตุลยาเดชานนท์ อาจารย์ประจำหน่วยประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ทุกปีจะมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส มาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี แต่ไม่มากนัก เพราะเชื้อไม่ได้ติดกันง่ายนัก เท่าที่จำได้เคยมีมากสุดเมื่อ 2 ปีก่อนประมาณ 8 ราย ซึ่งมีทั้งที่เจอเชื้อชนิดรุนแรงและไม่รุนแรง แต่ไม่มีการเก็บตัวเลขข้อมูลที่ชัดเจนทำให้บอกสถิติไม่ได้

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคหวัดหมูในมณฑลเสฉวนของจีนยังคงน่าเป็นห่วง ล่าสุดทางการจีนรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสเตรปโตคอกคัสในจีนมีสูงถึง 206 ราย และมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 38 ราย และกระทรวงเกษตรจีนได้ประกาศใช้แผนป้อง กันและควบคุมการแพร่ระบาดในทั่วประเทศแล้ว

ในวันเดียวกันนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ได้ออกมาเตือนให้ทางการจีนเร่งตรวจสอบ เพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับโรคติดเชื้อในหมูที่กำลังระบาดในคนอย่างรุนแรง รวมถึงหาสาเหตุที่ทำให้อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยสูงผิดปกติ โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของ WHO กล่าวว่า มีความจำเป็นต้องมีการทดสอบมากกว่านี้ เพื่ออธิบายสาเหตุของการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ในเสฉวนและมีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงจนน่าตกใจ

ขณะที่กระทรวงเกษตร ประมง และการอนุรักษ์ของฮ่องกง (AFCD) ได้เริ่มมาตรการตรวจตราอย่างใกล้ชิด โดยใช้เงื่อนไขการให้ใบอนุญาตฟาร์มหมู เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส ซูอิส ในฟาร์มหมูท้องถิ่น และจะมีการติดตามผลการตรวจสอบฟาร์มหมูที่ได้ทำไปแล้ว 266 แห่ง ซึ่งไม่พบว่ามีหมูตายอย่างผิดปกติ

และที่รัสเซียเองก็มีความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้เช่นกัน โดยกระทรวงภาวะฉุกเฉินของรัสเซียได้ออกมาเปิดเผยว่าทางการรัสเซียได้สั่งกำจัดหมู 286 ตัวที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองโวลโกแกรด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดหมูที่มีการตรวจพบก่อนหน้านี้ ส่วนที่ญี่ปุ่น กระทรวงสุขภาพ แรงงาน และสวัสดิการ เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะไม่นำเข้าเนื้อหมูจากมณฑลเสฉวน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อในหมู

ข้อมูลจาก http://www.dld.go.th/pvlo_kkn/News/news/sara_010.htm

หวัดมรณะลามไม่หยุด พุ่ง2,384คน ติดเชื้อแล้ว24ประเทศ

‘ฮู’ เผยตัวเลขเม็กซิโกติดเชื้อเยอะสุด 1,112 คน เสียชีวิตแล้ว 42 คน ส่วนสหรัฐฯ ติดเชื้อ 896 คน เสียชีวิตเท่าเดิม 2 คน ส่วนอีก 22 ประเทศมีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อแต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวานนี้ (8 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ว่า องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ เผยตัวเลขล่าสุดของผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ สายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1 เพิ่มเป็น 2,384 คน ใน 24 ประเทศ

ทั้งนี้ รายงานขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า เม็กซิโกมีผู้ได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จำนวน 1,112 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 42 คน ส่วนสหรัฐฯ รายงานยืนยันผู้ติดเชื้อ 896 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังคงเดิมที่ 2 คน ส่วนประเทศที่มีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อแต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ได้แก่ แคนาดา 214 คน สเปน 81 คน อังกฤษ 32 คน เยอรมนี 10 คน อิสราเอล 6 คน ฝรั่งเศส อิตาลี และนิวซีแลนด์ประเทศละ 5 คน เกาหลีใต้ 3 คน เอลซัลวาดอร์ และเนเธอร์แลนด์ 2 คน ส่วนออสเตรีย ฮ่องกง โคลอมเบีย คอสตาริกา เดนมาร์ก กัวเตมาลา ไอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกส สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ พบผู้ติดเชื้อประเทศละ 1 คน

ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ยืนยันมาเลเซียปลอดผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หลังผลตรวจล่าสุดยืนยันผู้ป่วย 4 คนในโรงพยาบาลรัฐสลังงอร์ ที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อออกมาเป็นลบ

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.xn--22c0bzbwatc4b2dxe5b.com/

เหยื่อหวัดมรณะพุ่ง ตายแล้ว45 หญิงแคนาดารายล่าสุด

องค์การอนามัยโลก เผย ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่งไม่หยุด ล่าสุดมีทั้งสิ้น 2,500 ราย ใน 25 ประเทศ ขณะที่ประเทศแคนาดาพบหญิงวัย 30 ปี เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แล้ว 1 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก เพิ่มเป็น 45 รายแล้ว…

องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ว่า ขณะนี้พบการระบาดใน 25 ประเทศ และมีตัวเลขผู้ติดเชื้ออย่างเป็นทางการ 2,500 คน โดยประเทศเม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว 1,204 ราย และเสียชีวิต 44 ราย สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อ 896 ราย เสียชีวิต 2 ราย

ขณะประเทศที่ได้รับการยืนยันว่ามีการติดเชื้อแต่ไม่มีผู้เสียชีวิต คือ ออสเตรีย 1 ราย บราซิล 1 ราย แคนาดา 214 จีน และฮ่องกง 1 ราย โคลอมเบีย 1 ราย คอสตาริก้า 1 ราย เดนมาร์ก 1 ราย เอลซัลวาดอร์ 2 ราย ฝรั่งเศส 12 ราย เยอรมนี 11 ราย กัวเตมาลา 1 ราย ไอร์แลนด์ 1 อิสราเอล7 ราย อิตาลี 6 ราย เนเธอร์แลนด์ 3 ราย นิวซีแลนด์ 5 ราย โปแลนด์ 1 ราย โปรตุเกส 1 ราย เกาหลีใต้ 3 ราย สเปน 88 ราย สวีเดน 1 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย และ สหราชอาณาจักร 34 ราย

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว CBC ของแคนาดา รายงานการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเมืองอัลเบอร์ตา เมื่อวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น ระบุว่า การเสียชีวิตของสตรี ในทางตอนเหนือ ของเมืองอัลเบอร์ตา ได้รับการยืนยันแล้วว่า เป็นผู้เสียชีวิตรายแรกของแคนาดา จากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดย ดร.อังเดร คอร์ริโว หัวหน้าหน่วยสาธารณสุข ของเมืองอัลเบอร์ตา เปิดเผยว่า แคนาดามีผู้เสียชีวิตรายแรก จากโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 เมื่อเร็วๆ นี้ และขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุด ต่อครอบครัวของเธอ

ดร.คอร์ริโว เปิดเผยอีกว่า สตรีคนดังกล่าว เสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเธอไม่ได้เดินทางไปประเทศเม็กซิโก ทำ ให้สาเหตุการเสียชีวิตของเธอ ยังไม่ชัดเจนในเบื้องต้น และยังไม่ทราบว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเสียชีวิต กระทั่งสมาชิกในครอบครัวจากชุมชนเดียวกัน ได้เกิดอาการป่วยขึ้น จึงมีการทดสอบโรค และได้รับผลยืนยัน จากห้องทดลองของเมือง เมื่อช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น

รายงานข่าวเบื้องต้น ระบุว่า สตรีที่เสียชีวิตมีอายุมากแล้ว แต่ ดร.คอร์ริโว บอกว่า เธออยู่ในวัยประมาณ 30 ปี แต่ไม่ยอมเปิดเผยชุมชนที่เธอพักอาศัย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ญาติที่ป่วย น่าจะเป็นผู้ที่พักอาศัยในบ้านเดียวกับสตรีคนดังกล่าว

ขณะที่ประเทศปานามา พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 1 ราย เป็นผู้ชาย เพิ่งกลับจากสหรัฐอเมริกา ส่วน ที่อิตาลี พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากคนสู่คนรายแรก เป็นชายวัย 70 ปี

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.xn--22c0bzbwatc4b2dxe5b.com/

เสิร์ชเอ็นจิ้นตัวใหม่ตอบได้ทุกเรื่อง


อีกไม่กี่สัปดาห์จากนี้ไป โลกจะได้รู้จักกับเสิร์ชเอ็นจิ้นตัวใหม่ ซึ่งทำงานด้วยซอฟต์แวร์ที่มีความสามารถในการคำนวณเป็นเลิศชื่อว่า Wolfram Alpha โดย Stephen Wolfram ผู้พัฒนาเรียกมันว่าเป็น "Computational Knowledge engine" และไม่ว่าจะเรียกกันอย่างไรก็ตาม Wolfram Alpha ไม่ใช่เสิร์ชเอ็นจิ้นแบบ Google ที่พยายามค้นหาหน้าเว็บที่คาดว่าจะมีคำตอบให้กับผู้ใช้ แต่มันจะพยายามค้นหาคำตอบให้กับสิ่งที่คุณถามโดยตรง



Danny Sullivan ผู้เชี่ยวชาญเสิร์ชเอ็นจิ้นเรียกระบบค้นหาดังกล่าวว่า เครื่องมือค้นหาข้อเท็จจริง (fact search engine) หรือ เครื่องมือค้นหาคำตอบ (answer search engine) ซึ่งเป็นคำที่เขาเคยใช้เรียกบริการที่สามารถค้นหาคำตอบโดยตรงให้กับผู้ใช้ได้ แทนที่จะพาไปยังเว็บเพจต่างๆ ที่อาจจะพบคำตอบให้เฉยๆ ดังเช่น เครื่องมือค้นหายอดฮิตอย่าง Google




ในงาน Webinar ที่จัดให้มีขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Wolfram ได้แสดงความสามารถอันน่าทึ่งของเสิร์ชตัวนี้ให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนา โดยคำตอบที่มันค้นหามาได้จะเกิดจากการนำข้อมูลที่ค้นพบมากมายบนเน็ตมาแสดงผลลัพธ์ด้วยเว็บเพียงหน้าเดียว ซึ่งประกอบด้วยสถิติตัวเลข และกราฟ ตลอดจนข้อมูลที่เกี่ยวข้องล่าสุด ตัวอย่างสิ่งที่คุณสามารถถาม Wolfram Alpha ให้ช่วยค้นหาคำตอบได้ ก็จะมีตั้งแต่เรื่องเล็กๆ อย่าง ลักษณะยีนของมนุษย์ น้ำหนักของโมเลกุลแคฟเฟอีน จำนวนของผู้ที่มีชื่อ Andrew ที่เกิดในปีที่เราระบุ หรือแม้แต่จำนวนของปลาที่จับได้ในฝรั่งเศษ สถิติของหุ้นไมโครซอฟท์ในช่วงทีผ่านมา ความสูงของภูเขาเอฟเวอเรสต์เปรียบเทียบกับความยาวของสะพานโกลเด้นเกต อย่างไรก็ตาม บริการWolfram Alpha กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมการเปิดให้บริการในเดือนนี้ สำหรับผู้สนใจคงต้องติดตามความคืบหน้ากันต่อไป



แหล่งที่มา : http://www.rssthai.com/reader.php?t=it&r=14028
รายละเอียดแหล่งข้อมูล http://www.wolframalpha.com/

Tags: search engine wolfram alpha google กูเกิ้ล เสิร์ชเอ็นจิ้น

กูเกิลโชว์เซิร์ฟเวอร์สำหรับศูนย์ข้อมูลของตนเป็นครั้งแรก






เป็นที่รู้กันว่าเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิลนั้นมากมายมหาศาลถึงหลักแสนเครื่อง แม้จะไม่มีใครรู้จำนวนที่แท้จริงเพราะเป็นความลับทางการค้า แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนสงสัยกันคือกูเกิลทำอย่างไรให้ประสิทธิภาพของศูนย์ข้อมูลของตนนั้นสูงที่สุด และเมื่อวานนี้กูเกิลก็ได้แสดงเซิร์ฟเวอร์ของตนพร้อมรายละเอียดคร่าวๆ ในการออกแบบให้กับนักข่าวได้ชมกันเป็นครั้งแรก

เซิร์ฟเวอร์ของกูเกิลนั้นใช้ชิปจากทั้งอินเทลและเอเอ็มดีในเมนบอร์ดที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก ความกว้างประมาณ Micro-ATX แต่ลึกกว่า โดยใส่ซีพียูได้สองตัวและแรมอีก 8 แถวกับฮาร์ดิสก์อีกสองลูก ตัวเมนบอร์ดนั้นผลิตโดยบริษัท Gigabyte นั่นเอง

ประเด็นที่น่าสนใจที่มีการเปิดเผยออกมาคือ
เซิร์ฟเวอร์ทุกตัวมีแบตเตอรี่ของตัวเอง เป็นแบบตะกั่วกรด 12 โวลต์ธรรมดาที่เราเห็นๆ กัน โดยกูเกิลระบุว่าแบตเตอรี่แบบนี้มีประสิทธิภาพถึงร้อยละ 99.9 ขณะที่ UPS ขนาดใหญ่ๆ นั้นไม่เกินร้อยละ 95 เท่านั้น
เซิร์ฟเวอร์มีขนาดเล็ก แต่ความสูง 2U มาตรฐาน เวลาส่งทีจะส่งเป็นตู้คอนเทนเนอร์ ตู้หนึ่งบรรจุได้ 1,160 เครื่อง กินไฟต่างกันไปแล้วแต่รุ่นแต่ไม่เกิน 250 กิโลวัตต์
ตัวจ่ายไฟของเซิร์ฟเวอร์นั้นต้องการไฟ 12 โวลต์อย่างเดียว โดยมีตัวแปลงโวลต์ให้เป็น 5 โวลต์ในตัวเพื่อประสิทธิภาพการส่งพลังงาน

ผมลองแกะสเปคจากภาพแล้วเหมือนเน็ตเวิร์คจะต่อกันด้วย InfiniBand นะ

ที่มา - C|Net

ดูทีวีย้อนหลังออนไลน์





















ดูทีวีย้อนหลัง เลือกช่อง :


วันที่ :


เดือน :

ปี :

เวลา :















โปรแกรมดึงเพลงจากเว็บ imeem.com

้โปรแกรม Free Music Zilla

ดาวน์โหลด & อ่านวิธีใช้ได้ที่

http://www.freemusiczilla.com/ เจ๋งเลยล่ะ

search

search this site the web
search engine by freefind

ฝากไฟล์

YOUR IP