เพื่อการแสดงผลหน้าเว็ป SPVARIETY ที่ถูกต้องท่านควรใช้ IE8 Firefox & Google Chrome

Download Browsing Click Here

This page is optimized for IE8 Firefox & Google Chrome

คำต่อคำ! แม่เด็ก 5 ขวบคู่กรณี อ้อม


จดหมายปริศนาที่แนบมากับแผ่นซีดี ที่อ้างว่าเป็นแม่ของเด็ก 5 ขวบที่มีเรื่องกับอ้อมและสามี


“เหตุเกิดที่ เมเจอร์ เอกมัย ดิฉันได้พาลูกชายสองคนไปดูหนังพร้อมกับสามี เวลา 4 ทุ่ม 24 นาที ดิฉันได้พาลูกชายไปซื้อขนม ส่วนสามีและลุกชายคนโตได้เข้าไปก่อน จู่ๆ ก็มีผู้ชายและผู้หญิงมายืนอยู่ข้างหลังลูกชาย และผู้ชายพูดกับลูกดิฉันว่า “เฮ้ย เตะอะไร” ในตอนนั้นลูกชายของดิฉันได้เห็นแมลงสาปเกาะอยู่ที่เค้าท์เตอร์ขนม เค้าจึงเอาเท้าไปเตะแมลงสาป แล้วเค้าได้ยืนถอยหลังออกมา และยกเท้าขึ้นพร้อมกับมือขวาได้จับเท้าไว้ แต่เผอิญเค้าเสียหลัก ขาเขาเซไปเตะโดนผู้ชายคนนั้น และลูกชายดิฉันได้ยกมือไหว้ขอโทษแล้ว แต่ผู้ชายคนนั้นไม่ยอมให้อภัยและพูดเสียงดังว่า “เฮ้ย เตะได้ไงโดนขาเนี่ย” ลูกชายดิฉันกลัวจึงยืนหลบข้างหลังดิฉัน ดิฉันหันไปบอกกับเขาว่า “ลูกชายฉันเค้าจะเตะแมลงสาป เค้าไม่ได้ตั้งใจเตะคุณ เค้าขอโทษแล้วค่ะ” ผู้ชายคนนั้นกลับว่าดิฉันแรงกว่าเดิมว่า “หัดสั่งสอนลูกซะบ้างนะ ลูกจะได้ไม่เป็นเด็กนิสัยเสียแบบนี้” ดิฉันงงไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้เค้าจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ พอเค้าว่าดิฉันและลูก ดิฉันก็ได้พูดไปเหมือนเดิมว่า “ลูกดิฉันไม่ได้ตั้งใจ และได้ขอโทษแล้ว” ดิฉันพยายามอธิบาย ให้เค้าเข้าใจ แต่เค้าไม่ฟัง ส่วนผู้หญิงที่มากับเค้าแทนที่จะช่วยปรามให้เค้าเบาลง กลับยุยงส่งเสริมว่า “ลูกคุณมาเตะโดนขาเค้า มาเตะได้ไงเนี่ย” ดิฉันก็ได้ตอบกลับไปเหมือนเดิม และหวังว่าเธอคงจะเข้าใจ แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด เธอพูดเสียงดังใส่ดิฉันว่า “เลี้ยงลูกยังไงให้มาเตะขาผู้ใหญ่” พอดิฉันมองหน้าเธอใกล้ๆก็จำได้ว่าเป็นดาราที่ดิฉันชอบมานาน ดูละครของเธอตั้งแต่เรื่องแรกและติดตามละครของเธอเรื่อยมา อีกทั้งรายการที่เธอเป็นพิธีกรอยู่ดิฉันก็ดูเป็นประจำ ดิฉันจึงถามเธอว่า “ใช่คุณอ้อมไหมคะ” เธอตอบว่า “ใช่” ดิฉันจึงบอกกับเธอว่า “ฉันเป็นแฟนละครของคุณ ดูละครของคุณทุกเรื่อง ติดตามผลงานคุณตลอดมา” ดิฉันยังพูดไม่ทันจบ ผู้ชายกลับตะคอกเสียงดังใส่ดิฉันว่า “แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้” ดิฉันหน้าแตกและงงมาก...ผิดด้วยหรือที่บอกว่าเป็นแฟนละครของเธอ เท่านั้นยังไม่พอ ผู้ชายยิ่งด่าดิฉันแรงกว่าเดิมว่า “ไพร่ สถุน หัดสั่งสอนลูกซะบ้างนะ ลูกจะได้ไม่เป็นเด็กนิสัยเสียแบบนี้” ดิฉันทั้งอึ้งและงงกว่าเดิม ไม่คิดว่าเค้าจะกล้าพูดคำนี้ออกมา ดิฉันคิดว่าถ้าเค้าเป็นคนดีจริง แค่เรื่องเด็กเตะโดนขาทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจและขอโทษแล้ว เค้าก็น่าจะให้อภัย แต่นี่ไม่ใช่ เค้ากลับโวยวายและต่อว่าดิฉันกับลูกอย่างเสียหายๆ ส่วนผู้หญิงตะคอกและขู่ลูกดิฉันว่า “ทำไมเป็นเด็กนิสัยเสียแบบนี้ อยู่บ้านแม่สั่งสอนบ้างหรือเปล่า มาเตะขาผู้ใหญ่ได้ไง เด็กนิสัยไม่ดี นิสัยแย่จริงๆ” ดิฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเจอดารา ที่ดิฉันชอบด่าดิฉันและลูกแบบนี้ ดิฉันเสียความรู้วึกจริงๆ ในทีวีเธอดูนิสัยดี ง่ายๆสบายๆ แต่ตัวจริงต่างกันราวฟ้ากับดินรวมทั้งผู้ชายด้วย ทีวีเป็นฟ้าแต่ตัวจริงเป็นดิน ตอนแรกดิฉันก็คุ้นหน้าผู้ชายแต่ไม่แน่ใจเลยถามเธอว่า “ผู้จัดการคุณเหรอ” เธอตอบเสียงแข็งว่า “สามีอ้อม” ดิฉันไม่คิดเลยว่าตัวจริงเธอกับสามีจะนิสัยแบบนี้ จากที่โดนทั้งสองคนรุมด่ารุมว่าต่างๆนานา ดิฉันมีความรู้สึกว่าทั้งสองคนมีนิสัยอันธพาล ไม่มีความเมตตาและให้อภัยเด็ก 5 ขวบ ทั้งๆที่เด็กขอโทษแล้ว

“ปัจจุบันดิฉันรวมทั้งครอบครัวและญาติสนิทมิตรสหาย ไม่ดูละครและรายการของเธออีกต่อไป และแบรนด์รังนกที่เธอโฆษณาคู่กับสามีของเธอ ที่ดิฉันเคยซื้อให้ญาติผู้ใหญ่ ดิฉันก็เลิกซื้อแล้วค่ะ และดิฉันอยากฝากบอกว่า เธอกับสามีของเธอว่า “ถ้าคุณคิดว่า คุณเลือกปฏิบัตินิสัยที่แท้จริงกับคนบางคน หรือกับคนส่วนน้อยแล้วคนส่วนมากจะไม่รับรู้ คุณคิดผิด..ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิดไม่มิด สักวันหนึ่ง สิ่งใดหรืออะไรที่คุณทำไว้ มันจะย้อนกลับมาหาคุณเอง






สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย : rakdara.net

ได๋ โดนสับเละ คลิปหลักฐานโผล่

หลักฐานโผล่ หลัง พลอย เฌอมาลย์ แฉ เกาเหลาชามเดิม ได๋ ไดอาน่า เป็นฝ่ายเปิดศึกก่อน

เอาแล้ว! หลักฐานโผล่ หลังจากกรณีที่ล่าสุดนางเอก พลอย เฌอมาลย์ ออกมาแฉว่า เกาเหลาชามเดิมอย่าง ได๋ ไดอาน่าเป็นฝ่ายเปิดศึกก่อน ขณะที่เธอกรี๊ดให้กำลังใจน้องคนสนิทอย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ บนเวที โดยพิธีกรหมวย ถามบนเวทีใส่ไมค์ว่า กรี๊ดอะไรกันคะ?....บลา บลา บลาฯลฯ ซึ่งจากที่ทางสาว พลอย ถ้าเอาเทปมายืนยัน ล่าสุดก็มีคนเอามาปล่อยบ้างแล้วในเน็ต ซึ่งดูท่าว่างานนี้งานจะไปเข้าทางสาว ได๋ ซะส่วนใหญ่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน ตัดสินกันเอาเองละกัน

สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย : sanook.com

เจนี่ เดินแฟชั่นโชว์ เกาะอกหลุด นมหกกลางเวที

เจนี่ ร่ำไห้ เกาะอกหลุด วอนอย่ากระจาย ภาพหลุดเจนี่

น่าสงสารสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ จริง ๆ หลังจากนางเอกสาวได้ไปเดินแบบแฟชั่นโชว์งานหนึ่ง แล้วเกิดอุบัติเหตุเหยียบชายกระโปรงตัวเองจนทำให้ชุดราตรียาวเกาะอกหลุดลงมาถึงเอว เผยให้เห็นหน้าอกของสาวเจนี่กลางแคตวอล์ก ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้สาวเจนี่ถึงกับช็อก และของดการเดินแบบในชุดต่อไปทันที



แต่ทว่าหลังจากงานจบ ก็กลับมี ภาพหลุดเจนี่ ที่เหยียบชายกระโปรงพลาดส่งต่อไปว่อนอินเทอร์เน็ต ทำเอาสาว เจนี่ เสียใจอย่างมาก ถึงกับร้องไห้ไม่หยุดมา 2 วันแล้ว โดยคุณแม่ของ เจนี่ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ลูกสาวรู้สึกเสียใจมาก และยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุจริง ๆ ไม่มีใครอยากให้เกิดความผิดพลาดเช่นนี้ เพราะวันนั้นกระโปรงที่เจนี่ใส่ค่อนข้างยาว ก็เลยก้าวพลาด

ทั้งนี้ คุณแม่ของนางเอกสาว ยังได้ขอร้องต่อสื่อมวลชน และทุกฝ่าย อย่านำภาพของลูกสาวมาเผยแพร่ หรือกระจายต่อ เพราะสงสารลูกมาก และเรื่องนี้ก็ไม่มีใครตั้งใจจะให้เกิดขึ้นจริง ๆ







สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย

http://www.zabzaa.com/news/entertain/view.php?id=1157&%E0%A8%B9%D5%E8%20%C3%E8%D3%E4%CB%E9%20%E0%A1%D2%D0%CD%A1%CB%C5%D8%B4%20%C7%CD%B9%CD%C2%E8...#

การสร้าง รูป การ์ตูน cartoon avatar facebook

ตอนนี้ก็เห็นเป็นที่นิยมกันมากๆ เลยนะครับ สำหรับรูป Avatar หรือ รูปโปรไฟล์ เป็นการตูน บน facebook นะครับ

ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า รูปโปรไฟล์นี้ สร้างมาเพื่อกิจกรรม อะไรหรือสร้างเล่นๆ นะครับ

มาดูตัวอย่าง รูปการ์ตูนที่สร้างกันเสร็จแล้วนะครับ




เราสามารถ มาสร้าง หรือ ร่วมสนุกเกี่ยวกับการสร้าง avatar ได้ง่ายๆที่ลิงค์นี้เลย

สร้าง avatar facebook เลย>> http://apps.facebook.com/dtaconediy/

หลังจากสร้างเสร็จแล้วก็กดSave To album ด้านล่างตัวการ์ตูน รูปก็จะถูกอัพโหลดเข้า อัลบั้ม facebook เราอย่างอัตโนมัติครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.it4x.com/forum/index.php?topic=7703.msg19006;topicseen

พิ้งกี้ ตอบคำถาม วู้ดดี้ ประเด็นเมียน้อย

ควันหลง พิ้งกี้ ตอบคำถาม วู้ดดี้ ประเด็นเมียน้อย


ทีมงานประชาสัมพันธ์รายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย ส่งข่าวเชิญชวนติดตามการสัมภาษณ์นางเอกสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช ใน เทปที่บันทึกการถ่ายทำที่ เมืองไฮเดอราบัด ประเทศอินเดีย

ช่วงก่อนคลิปเสียงพิพาทแพร่ทางอินเตอร์เน็ตและลาออกจากช่อง 3 โดยเทปที่จะออกอากาศวันอาทิตย์ที่ 24 ต.ค.นี้ เวลา 22.30-23.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี จะมีเนื้อหาเรื่องข่าวอื้อฉาวที่เกิดขึ้น โดยตัวอย่างช่วงหนึ่ง มีดังนี้

วู้ดดี้ : ช่วงนี้ค่อนข้างเป็นข่าวเยอะมาก
พิ้งกี้ : มีเรื่องเกิดขึ้นเยอะมาก เหนื่อยมาก ท้อมาก ข่าวแรงที่สุดตั้งแต่เกิดมา คงไม่มีเรื่องไหนแรงไปกว่านี้แล้ว
วู้ดดี้ : ช่วงที่มีกระแสข่าวแรงๆ คุณผ่านมาได้อย่างไร
พิ้งกี้ : มีกำลังใจที่ดี คือคุณแม่ แล้วระหว่างมาทำงานที่อินเดีย ก็พยายามทำงานให้ดีที่สุด อดทน
วู้ดดี้ : หลายๆ คน ผู้ชม ร่วมถึงพี่ๆ นักข่าวคาดหวังในตัวคุณเยอะ
พิ้งกี้ : จริงๆ คำว่าคาดหวัง มันดีนะ

วู้ดดี้ : มาเล่นหนังที่อินเดีย มีผู้ชายมาจีบมั้ย
พิ้งกี้ : ไม่มีนะคะ
วู้ดดี้ : การย้ายมาเล่นละครช่อง 3 มีคนบอกว่าคุณโดนเสี้ยมแล้วมีเรื่องการเมืองเข้ามาวุ่นวาย มาก

พิ้งกี้ : กี้ไม่ทราบ กี้รู้สึกว่าเป็นคนทำงานผู้ใหญ่ให้โอกาส เราก็ต้องเล่นต้องทำให้ดี ไม่รู้เรื่องการเป็นข่าว
วู้ดดี้ : เบื่อมั้ยกับข่าวที่คิดว่าไม่เป็นข่าว
พิ้งกี้ : โชคดีที่กี้มีงานเยอะ เลยไม่ได้คิดหรืออะไรกับเรื่องนี้มากนัก
วู้ดดี้ : ถ้าไม่มีงานละ จะเกิดอะไรขึ้น
พิ้งกี้ : กี้คงเป๋ เรามีช่วงที่อ่อนแอ เราคิดเยอะ กดดัน เราทำงาน กี้ต้องมาทำงานที่อินเดียด้วย ก็หลายๆอย่างค่ะ
วู้ดดี้ : ยอมรับมั้ยว่าข่าวมากดดันเรา
พิ้งกี้ : มีค่ะ ก็เก็บมาคิดนะคะ แต่ตัดจะได้ไม่เครียด มาเรียนเต้นเรียนอะไรไปก็ช่วยได้

วู้ดดี้ : คิดว่ามีอะไรที่เราทำพลาด
พิ้งกี้ : ก็มีนะ แต่อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป
วู้ดดี้ : เพราะอะไรเรื่องถึงบานปลายใหญ่โต
พิ้ง กี้ : มีคนฟังมีคนเม้าธ์เรื่องขยายใหญ่ โทษใครไม่ได้ กี้ไม่รู้จะไปบ่นกับใครต้องทำใจไม่รู้จะพูดจะอธิบายให้เข้าใจกันยังไง เพราะก็พูดมายาวนานเหลือเกิน เป็นข่าวมาเป็นปี ยาวนานที่สุด

วู้ดดี้ : คุณน่าจะคบใครไปเลยนะ
พิ้งกี้ : ก็ไม่ได้คบใคร จริงๆ เราก็มีความรักนะ แต่ว่ามันยังหาไม่เจอ
วู้ดดี้ : เวลามีคนมองเราคิดมั้ยว่าเขามองเราเพราะเป็นดาราหรือเพราะเราเป็นข่าว
พิ้งกี้ : ก็ยิ้มให้ปกตินะคะ เขาไม่ชอบเราก็ไม่เป็นไร ยังมีคนชอบและให้กำลังใจเรา

วู้ดดี้ : เวลาที่มีพาดหัวข่าว ภรรยาน้อย ใช้คำแรงๆ ร้องไห้มั้ย
พิ้งกี้ : ร้องนะ มันคือความกดดัน แย่งสามีชาวบ้าน ภรรยาน้อย เป็นอะไรที่เราแคร์นะ
วู้ดดี้ : แล้วอ่านข่าวทำไม
พิ้งกี้ : ก็อยากรู้ แต่ยิ่งอ่านยิ่งไม่จบนะ มีเยอะไปหมด

นอกจากนี้ยังมีคำถามจากวู้ดดี้ว่า พิ้งกี้ตอนนี้มีคนมาพูดใส่หน้าคุณ ว่า ใช้สามีร่วมกับเพื่อนในวงการ คุณจะร้องไห้ไหม ส่วนคำตอบเป็นอย่างไร ติดตามได้ในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย วันอาทิตย์นี้ เวลา 22.30-23.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี

ที่มาข้อมูล : Gossip Star

น้ำเหนือมาแล้ว-อีก2วันทะลักถึงกรุง!


วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7264 ข่าวสดรายวัน


16จังหวัด จมบาดาล ช่วยระทึก 6พันชีวิต รพ.โคราช

น้ำเหนือไหลทะลักเข้ากรุงเทพฯ แน่ภายในวันที่20 ต.ค.นี้ เพราะเขื่อนเจ้าพระยากับเขื่อนป่าสักจำเป็นต้องระบายน้ำ กทม.สั่งเตรียมรับมือด่วน ด้านอ.ท่าเรือ อยุธยา ได้รับผลกระทบแล้ว หลังเกิดน้ำท่วมสูงร่วม 2 เมตร เดือดร้อนนับหมื่นครอบครัว เช่นเดียวกับปทุมฯ ที่น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าสามโคก กรมชลฯ สรุป 16 จังหวัดทั่วประเทศเผชิญอุทกภัยจมบาดาลไปตามๆ กัน ที่โคราชสาหัสสุด พบผู้เสียชีวิต 4 ราย ส่วนในเขตอำเภอเมืองมีผู้ป่วย ประชาชน แพทย์ และพยาบาลโดนน้ำล้อมรอบเหมือนติดเกาะติดค้างอยู่ใน 2 ร.พ.ใหญ่ถึง 6 พันคน นายกฯ ได้ฤกษ์รุดลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์ด่วน เตือนอิทธิพลพายุ 'เมกี' พาฝนถล่มซ้ำบางจังหวัด ขณะที่ร่องมรสุมจ่อเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้

-เตือนใต้รับมือฝนถล่ม

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายต่อศักดิ์ วานิชขจร รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ฝ่ายวิชาการ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดขณะนี้เป็นสถานการณ์ปกติของทุกปี ตัวการคือหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ซึ่งขณะนี้เคลื่อนตัวไปทางประเทศพม่าแล้ว ทำให้ฝนเบาบางลง โดยช่วงวันที่ 18-19 ต.ค.นี้ อาจมีฝนตกหนักในภาคตะวันตกของประเทศไทย อาทิ จ.สุพรรณบุรี จ.อุทัยธานี จ.กาญจนบุรี ส่วนภาคอีสานตอนล่าง เช่น จ.นครราชสีมา จะยังมีฝนอยู่ แต่เบาบางลง ขณะที่น้ำป่ายังไหลมาสมทบอยู่ ทำให้ระดับน้ำทรงตัว แต่วันที่ 19 ต.ค. อากาศจะเริ่มดีขึ้น เช่นเดียวกับทางตอนบนของประเทศที่ฝนจะเบาบางลง และอุณหภูมิจะลดต่ำลงอีก 1-2 องศา บริเวณจ.เชียงราย เชียงใหม่ หนองคาย สกลนคร

นายต่อศักดิ์ กล่าวว่า ระยะนี้ร่องมรสุมจะเคลื่อนตัวมาทางภาคใต้ ทำให้ตั้งแต่จ.ประจวบคีรีขันธ์ถึงสุราษฎร์ธานี ต้องระมัดระวังฝนตก หนัก และน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งทะเลในอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรง ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.เป็นต้นไป ขณะเดียวกันมีพายุไต้ฝุ่นเคลื่อนตัวจากประเทศฟิลิปปินส์เข้ามาทางทะเลจีนใต้ แต่อาจเปลี่ยนทิศทางไปทางภาคใต้ของจีน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นขึ้น และมีฝนตกในภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย

"สำหรับฤดูหนาวในปีนี้ อากาศหนาวมาเร็วกว่าทุกปี คือเข้ามาประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว และวันที่ 19 ต.ค.นี้ จะเข้ามาอีกระลอกหนึ่ง แต่ยังไม่หนาวจัด แต่จะหนาวมากก็ในช่วงเดือนธ.ค. ไปแล้ว" รองอธิบดีกรมอุตุฯ ระบุ

-น้ำท่วมลาม16จังหวัด

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรม ชลประทาน แถลงว่า รายงานสถานการณ์น้ำประจำวันที่ 18 ต.ค. พบว่า มีพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม 16 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร ชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ลพบุรี สระบุรี เพชรบูรณ์ นครนายก สระแก้ว ปราจีนบุรี ระยอง นครราชสีมา และศรีสะเกษ ซึ่งกรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำจำนวน 1,200 เครื่องเพื่อช่วยเหลือเกษตร กรตามจังหวัดต่างๆ

สำหรับรายงานความเสียหายจากอุทกภัยช่วงวันที่ 1-18 ต.ค.53 พบว่ามีพื้นที่เพาะปลูกที่ถูกน้ำท่วมจำนวน 1,422,237 ไร่ ประมาณการมูลค่าความช่วยเหลือวงเงิน 936 ล้านบาท

-ระบายน้ำเขื่อนป่าสัก

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำฯ แถลงด้วยว่า ตามที่ได้เกิดสภาวะฝนตกหนักในหลายพื้นที่ภาคกลางตั้งแต่ 14-16 ต.ค. จาก การติดตามสภาพฝนในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำป่าสัก มีฝนตกสะสม 3 วัน ในเขต จ.นครสวรรค์ วัดได้ 104 มิลลิเมตร จ.ลพบุรี วัดได้ 253.60 มิลลิเมตร และจ.เพชรบูรณ์ วัดได้ 174.50 มิลลิเมตร ส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาจะเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำจำนวนมาก

ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมชลประทานมีความจำเป็นต้องเร่งพร่องน้ำทั้งเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในระดับที่ไม่ให้เกิดปัญหาน้ำล้นตลิ่ง ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ กอปรกับช่วงวันที่ 16-22 ต.ค. เป็นช่วงที่น้ำทะเลยังไม่หนุนสูง จึงเป็นโอกาสเร่งพร่องน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลได้มากขึ้น โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อพื้นที่ตลอดลำน้ำจนถึงตอนล่างในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

สำหรับช่วงวันที่ 23-26 ต.ค. ซึ่งจะเป็นช่วงที่เกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูงสุดนั้น กรมชลประ ทานจะปรับแผนด้วยการลดการระบายน้ำให้สัมพันธ์กับน้ำทะเลหนุนสูง โดยไม่ให้ส่งผลกระทบในลุ่มน้ำ ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ทำหนังสือแจ้งถึงสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไปยังจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เพื่อให้ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักทราบถึงสถานการณ์น้ำในระยะนี้แล้ว

-20 ต.ค.น้ำเหนือทะลักกทม.

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า มอบให้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) เปิดศูนย์รับบริจาคเงินและบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว สำหรับสถานการณ์น้ำเหนือที่กำลังจะไหลเข้ามาในพื้นที่กทม. มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำ (สนน.) เฝ้าระวังพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจุดน่าเป็นห่วงคือชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำเจ้าพระยา 27 ชุมชน กว่า 1,300 หลังคาเรือน

นายสัญญา ชีนิมิตร ผอ.สนน. กล่าวว่า กทม.เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำเหนือไหลหลาก ตั้งแต่เมื่อ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายงานว่าปริมาณน้ำเหนือจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระบายน้ำลงมาในแม่น้ำเจ้าพระยา 1,096 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ส่วนเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีอัตราระบายน้ำที่ 2,217 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยจะมีปริมาณน้ำเหนือไหลหลากเข้ากทม. 3,313 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน หรือประมาณช่วงบ่ายของวันที่ 20 ต.ค. น้ำจึงจะไหลลงมาถึงกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานเขต 13 เขตที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เตรียมพร้อมสถานีสูบน้ำ 157 แห่งและประตูระบายน้ำอีก 214 แห่ง คาดว่าจะสามารถรับมือได้ ส่วนจุดอ่อนน้ำท่วมในพื้นที่ชั้นในที่กระทบกับปริมาณน้ำฝน เช่น รัชดาฯ ลาดพร้าว บางนา ศรีนครินทร์ มีหน่วยปฏิบัติการน้ำท่วมเคลื่อนที่เร็วระบายน้ำในช่วงฝนตกหนักอยู่แล้ว

-ปิดเส้นทางเดินป่าเขาใหญ่

นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักและเกิดน้ำป่าไหลหลากจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในเขตอ.ปากช่อง และอ.สีคิ้ว จ.นคร ราชสีมา รวมถึงพื้นที่แถบกบินทร์บุรี จ.ปราจีน บุรี ล่าสุดกรมอุทยานฯ กำชับเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านรอบพื้นที่ และดูแลความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากบนเขาใหญ่ยังคงเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติ แม้ขณะนี้จะมีคำสั่งปิดเส้นทางเดินทางป่าบนเขาใหญ่ รวมทั้งน้ำตกเหวนรก น้ำตกเหวสุวัต น้ำตกกองแก้ว และกิจกรรมล่องแก่งหินเพิงไปชั่วคราว เพราะที่ผ่านมาปริมาณฝนตก หนักเกิน
สังเวยน้ำ - นายพร้อม กุศลส่ง ขับรถไปกับนางดวงกมล มารินันท์ ถูกน้ำ ป่าพัดตกถนนใน จ.ลพบุรี สูญหายไป 2 วัน เจ้าหน้าที่กู้รถขึ้นมาได้ พบเสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ 18 ต.ค.


100 ม.ม. และอาจมีน้ำป่าไหลหลากเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว
สังเวยน้ำ - นายพร้อม กุศลส่ง ขับรถไปกับนางดวงกมล มารินันท์ ถูกน้ำ ป่าพัดตกถนนใน จ.ลพบุรี สูญหายไป 2 วัน เจ้าหน้าที่กู้รถขึ้นมาได้ พบเสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ 18 ต.ค.



นายสุนันต์ กล่าวอีกว่า จากการสำรวจผลกระทบบนเขาใหญ่ พบมีดินถล่มเป็นระยะทาง 40 เมตรไหลลงมาปิดเส้นทางขึ้นอุทยานเขาใหญ่ ห่างจากด่านเก็บเงินราว 3 ก.ม. แต่เจ้าหน้าที่ได้เก็บดินที่ร่วงออกจากพื้นที่ไปแล้ว ขณะที่อุทยานแห่งชาติและแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีความเสี่ยง อาทิ น้ำตกและแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ได้กำชับให้หัวหน้าอุทยานและเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวมากขึ้น

-ชี้เหตุน้ำทะลัก'เขาใหญ่'

ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังนายโชคดี ปรโลกานนท์ ประธานกลุ่มอนุรักษ์เขาแผงม้า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อสอบถามถึงเหตุน้ำท่วมหลายพื้นที่ในจ.นครราชสีมา ที่วิกฤตอยู่ในขณะนี้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร นายโชคดี อธิบายว่า เรื่องการตัดไม้ทำลายป่าไม่น่าเป็นประเด็น เพราะปัจจุบันน้อยลงแล้ว แต่ปัญหาเรื่องน้ำท่วมอาจจะสรุปได้ คือ 1.ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามีจำนวนมากกว่าปกติ 2.พอหลุดจากพื้นที่ป่าไปแล้ว พื้นที่รับน้ำซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ที่ประชาชนถือครองทำการเกษตรพืชเชิงเดี่ยวอย่าง ข้าวโพด อ้อย และไม้ยูคาลิปตัส ซึ่งเป็นรูปแบบที่ไม่เอื้อต่อการกักเก็บน้ำ ที่สำคัญพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่มีต้นไม้ 3.ร่องน้ำลำธารคลองต่างๆ ตื้นเขิน 4.น้ำเมื่อลงจากป่าผ่านพื้นที่การเกษตรมาลงพื้นที่ทุ่งนา กลับถูกปิดกั้นด้วยสิ่งต่างๆ ที่ขวางทางน้ำตามธรรมชาติ อาทิ ถนน อาคาร ที่อยู่อาศัย ทำให้น้ำถูกบีบให้เหลือพื้นที่น้อยลง เพราะฉะนั้นวิกฤตการณ์ครั้งนี้จึงมองด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้ ต้องมองภาพรวม

"ปัจจุบันการแอบตัดไม้ในป่าอนุรักษ์ลดน้อยลง ที่เราต้องดูคืออัตราส่วนพื้นที่กักเก็บน้ำว่าเหลืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์ เพราะตอนนี้พื้นที่รับน้ำมีมากกว่าพื้นที่เก็บน้ำ จะเห็นได้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ที่หลุดจากอุทยานฯ เขาใหญ่ไปแล้วจะเป็นที่อยู่อาศัยกับพื้นเกษตรทั่วไป ซึ่งกักเก็บน้ำไม่ได้ เมื่อฝนตกน้ำปริมาณมากจึงลงมาอย่างรวดเร็ว" นายโชคดี ตั้งข้อสังเกต

-'เขื่อน'กักน้ำได้น้อยลง

นายโชคดี ชี้ด้วยว่า อีกปัญหาที่เรามองไม่เห็นคือความสามารถของเขื่อนในการกักเก็บน้ำไม่มีประสิทธิภาพเท่าเดิมแล้ว เนื่องจากชาวบ้านปรับเปลี่ยนรูปแบบการเกษตรเป็นไถพรวน ทำให้ตะกอนเหล่านี้สะสมอยู่ในเขื่อนเป็นจำนวนมาก เมื่อน้ำลงไปในเขื่อนก็ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้เท่าเดิม เมื่อเต็มเร็วจึงต้องปล่อยน้ำออกมา จากการที่ตนตระเวนดูตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. เป็น ต้นมา เห็นได้ชัดว่าว่าสิ่งปลูกสร้างเป็นตัวทำให้พื้นที่รับน้ำถูกบีบ อย่างที่อ.สูงเนินนี้ชัดเจน ถนน บายพาสที่ตัดใหม่บีบน้ำทำให้น้ำทะลักขึ้นมาบนถนนมิตรภาพ

"ที่ผ่านมาพอสร้างเขื่อนลำตะคอง และเขื่อนลำพระเพลิงจึงคิดว่าฝนตกเท่าไหร่เขื่อนสามารถรองรับน้ำได้ ฉะนั้นเวลาสร้างสิ่งปลูกสร้างจึงไม่คำนึงถึงปัญหาว่าถ้าเขื่อนรับน้ำไม่ไหวอะไรจะเกิดขึ้น อย่างอ.ปักธงชัย ซึ่งอยู่ในความประมาทเพราะคิดว่ามีเขื่อนลำพระเพลิงที่รองรับน้ำได้อยู่แล้ว น้ำท่วมหนักในวันนี้จึงเป็นตัวบ่งบอกว่า วันหนึ่งถ้าเขื่อนไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ จะเกิดปัญหาอย่างวันนี้" ประธานกลุ่มอนุรักษ์เขาแผงม้า กล่าว

-'มาร์ค'ตรวจเยี่ยมโคราช

ด้านสถานการณ์ในจ.นครราชสีมา ซึ่งประสบอุทกภัยอย่างรุนแรง เพราะรับน้ำป่าจากทั้งเขาใหญ่และน้ำลำตะคองล้นตลิ่ง เวลา 15.20 น. ที่ห้องประชุมหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 9 ชั้น ร.พ.มหาราชนครราช สีมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจพื้นที่ และร่วมประชุมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมและวางแผนแก้ไขปัญหา ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบ ว่า รัฐ บาลจะพยายามระดมทรัพยากรช่วยเหลือผู้ประ สบภัยเพิ่มเติมจากนอกพื้นที่เข้ามาสมทบ เช่น เรือท้องแบน และเร่งให้การช่วยเหลืออื่นๆ ที่มีความจำเป็น รวมทั้งเปิดรับบริจาคสิ่ง ของช่วยเหลือจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งภายในคืนนี้ได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จ.นครราชสีมา กำหนดจุดรับการช่วยเหลืออย่างชัดเจน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากข้อมูลพยากรณ์อากาศกรมอุตุนิยมวิทยาชี้ว่า ยังมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีฝนตกลงมาเพิ่ม และมีพายุเข้ามาอีกระลอก ฉะนั้นต้องมีการเตรียมวางแผนการสำรองไว้อย่างชัดเจน เช่น โรงพยาบาลต้องมีแผนการอพยพผู้ป่วยทุกประเภทที่จะกำหนดช่องทางส่งไปรักษาที่อื่น เช่น สถานพยาบาลใน จ.ขอนแก่น สระบุรี และลพบุรี สำหรับปัญหาการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าที่ไม่ทันการณ์ต่อการแก้ปัญหาด้านต่างๆ ของพี่น้องประชาชน ต้องทบ ทวนกันอีกครั้งหนึ่งว่าปัญหาการคาดการณ์สถาน การณ์ที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามคาดนั้นเกิดขึ้นเพราะสาเหตุใด

"คาดการณ์ว่าสถานการณ์คงคลี่คลายลงในเร็ววันนี้ แต่ความเป็นจริงไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ เราต้องทำใจยอมรับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่มีปริมาณน้ำท่วมขังมากและรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี" นายกฯ ระบุ

-6 พันชีวิตติดอยู่ใน 2 ร.พ.

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีโรงพยา บาลเซนต์แมร์รี่ และโรงพยาบาลมหาราชนคร ราชสีมา สถานพยาบาลสำคัญสองแห่งในเขต อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งถูกน้ำลำตะคองทะลักเข้าท่วมขังสูงเกือบ 2 เมตร ว่า ระดับน้ำท่วมสูงจนถึงชั้น 1 ของโรงพยาบาล ทั้งห้องโอพีดี ตรวจรักษาคนไข้นอก โรงอาหาร โรงซักฟอก ศูนย์มะเร็ง ห้องดับจิตเก็บศพถูกท่วมทั้งหมด บรรดาแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยต่างไม่มีอาหารเเละน้ำดื่ม ประกอบกับภาย ในโรงพยาบาลมีระดับน้ำท่วมสูงมาก แม้แต่รถขนาดใหญ่ยังไม่สามารถเข้าไปได้ถึงต้องใช้เรือเท่านั้น ทางร.พ.ทั้ง 2 แห่งจึงประกาศขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญที่อยู่บริเวณภายนอกช่วยกันบริจาคน้ำดื่มและข้าวกล่องให้กับผู้ที่ติดอยู่ภายในประมาณ 6,000 คนเป็นการเร่งด่วน

นอกจากนี้ กระแสน้ำยังทำให้กำแพงโรงพยาบาลเซนต์แมร์รี่ที่อยู่ติดกับลำตะคองพังทลายลงมา ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมภายในพื้นที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับการขนย้ายออกจากโรงพยาบาลกลุ่มแรกจะเป็นผู้ป่วยหนัก ซึ่งได้นำผู้ป่วยที่ลำเลียงออกมาทั้งหมดส่งไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ-ราชสีมาก่อนในเบื้องต้น ขณะเดียวกัน น้ำยังเข้าท่วมลานจอดรถของโรงพยาบาลสูงกว่า 1.50 เมตร ทำให้รถยนต์นับร้อยคันจมอยู่ใต้น้ำ

น.พ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้น เฉพาะร.พ.มหาราชนครราชสีมา เสียหายคิดเป็นมูลค่าราว 40 ล้านบาท เฉพาะในส่วนของเครื่องสนับสนุนการรักษา เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องครัว ส่วนเครื่องโคบอลต์ หรือ เครื่องรังสีรักษาและเครื่องใช้รักษาอื่นๆ ที่อยู่บริเวณชั้น 1 ยังไม่มีการประเมินความเสียหาย ซึ่งเครื่องรังสีรักษามีราคาราว 50 ล้านบาท
(1)มิดหลังคา - สภาพน้ำท่วมร.พ.มหา ราช และร.พ.เอกชนใกล้เคียงในตัวเมืองโคราช ซึ่งระดับน้ำสูงมิดหลังคารถ จนต้องปิดรับผู้ป่วยนอก ขณะที่ยังมีผู้ป่วยติดค้างอยู่ในร.พ.ถึง 6 พันคน



(2)พิษน้ำป่า - พระสงฆ์ยังออกบิณฑบาตในตลาด อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แม้ว่าจะมีน้ำท่วมสูง หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำป่าไหลหลาก บางแห่งสูงถึง 1 เมตร เมื่อวันที่ 18 ต.ค.



(4)ยังจม - น้ำยังท่วมขังในนครราชสีมาเป็นวงกว้าง โดยในร.พ. มหาราชนครราชสีมา สูงเกือบ 2 เมตร ทำให้แพทย์ พยาบาล คนป่วย ติดอยู่ภายในหลายพันคน ต้องลำเลียงผู้ป่วยหนักไปร.พ.อื่น


แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะมีรังสีรั่วไหลออกมาเพราะมีการบรรจุไว้ในแคปซูลภายในเครื่องอย่างดี
(1)มิดหลังคา - สภาพน้ำท่วมร.พ.มหา ราช และร.พ.เอกชนใกล้เคียงในตัวเมืองโคราช ซึ่งระดับน้ำสูงมิดหลังคารถ จนต้องปิดรับผู้ป่วยนอก ขณะที่ยังมีผู้ป่วยติดค้างอยู่ในร.พ.ถึง 6 พันคน



(2)พิษน้ำป่า - พระสงฆ์ยังออกบิณฑบาตในตลาด อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แม้ว่าจะมีน้ำท่วมสูง หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำป่าไหลหลาก บางแห่งสูงถึง 1 เมตร เมื่อวันที่ 18 ต.ค.



(4)ยังจม - น้ำยังท่วมขังในนครราชสีมาเป็นวงกว้าง โดยในร.พ. มหาราชนครราชสีมา สูงเกือบ 2 เมตร ทำให้แพทย์ พยาบาล คนป่วย ติดอยู่ภายในหลายพันคน ต้องลำเลียงผู้ป่วยหนักไปร.พ.อื่น



-โคราชสังเวยแล้ว 4 ศพ

สำหรับตัวเลขความสูญเสียเบื้องต้น จนถึงช่วงเย็นวันที่ 18 ต.ค. มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมในจ.นครราชสีมาแล้ว 3 ราย แบ่งเป็นอ.ปากช่อง 1 รายและอ.ด่านขุนทดอีก 2 ราย และมีประชาชนติดอยู่ภายในบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งนายระพี ผ่องบุพกิจ รักษาการผู้ว่าราชการจ.นครราชสีมา ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจสภาพน้ำท่วม และวางแผนสั่งการแก้ไขต่อไป

ขณะที่ตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 18 ต.ค. ระดับน้ำในลำตะคอง ซึ่งล้นจากเขื่อนลำตะคองและน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวันได้ไหลผ่านอ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ และอ.เมืองนครนครราชสีมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมสองฝั่งลำตะคองตลอดทั้งสาย ส่งผลให้บ้านเรือนหลายพันหลังคาเรือนเดือดร้อนสาหัส

นายระพี ประกาศให้จ.นครราชสีมาเป็นพื้น ที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัย 21 อำเภอ 131 ตำบล 1,127 หมู่บ้าน ซึ่งทางจังหวัดได้รับการประสานกลับมาจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและร่วมกตัญญู รวมทั้งองค์กรการกุศลอื่นๆ กำลังเตรียมอุปกรณ์ เรือท้องแบน และเครื่องอุปโภคบริโภคมาให้การช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ส.ว.หลายคนได้หารือปัญหาน้ำท่วมอย่างเคร่งเครียด อาทิ นายชลิต แก้วจินดา และนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา รวมถึงนางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ โดยระบุว่าขณะนี้ที่จ.นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตจากภัยน้ำท่วม 4 ราย และมีอีก 5 จังหวัดที่โดนหนัก คือ ชัยภูมิ ลพบุรี มหาสารคาม ปราจีนบุรี ร้อย เอ็ด จึงขอให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือด่วน

-เปิดวิ่งรถไฟเข้ากรุงตามปกติ

ส่วนเหตุน้ำท่วมรางรถไฟช่วงระหว่างสถานีรถไฟตำบลโคกกรวด อ.เมือง ไปจนถึง สถานีรถไฟ ต.กุดจิก อ.สูงเนิน และช่วงระหว่างสถานีรถไฟตำบลจันทึก-สถานีรถไฟซับม่วง อ.ปาก ช่อง ทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยต้องหยุดเดินรถทั้งหมด ล่าสุด นายสมศักดิ์ เตียนพลกรัง นายสถานีรถไฟนครราชสีมา เผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 2 จุด ได้คลี่คลายลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้วตั้งแต่ช่วงกลางดึก 17 ต.ค.ที่ผ่านมา

"จากการตรวจสอบรางรถไฟพบว่ายังอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ทำให้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยสามารถเปิดให้บริการเดินรถได้อีกครั้งในวันที่ 18 ต.ค. โดยขบวนรถเที่ยวแรก เป็นรถดีเซลรางธรรมดาออกจากสถานีรถไฟไปจังหวัดสุรินทร์ มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เมื่อเวลา 05.00 น. ขณะนี้รถไฟขบวนดังกล่าวสามารถวิ่งผ่านเส้นทางที่เคยถูกน้ำท่วมขังได้อย่างไม่มีปัญหา และทางการรถไฟฯ ได้ทยอยปล่อยเดินรถเป็นระยะ คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในเช้าวันที่ 19 ต.ค. หากไม่มีเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้นซ้ำ" นายสมศักดิ์ กล่าว

-จับตา'พายุเมกี'ถล่มซ้ำ

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ว่าที่อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในขณะนี้มีหลายจังหวัดที่สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง ซึ่งใน 4-5 วันนี้ยังต้องเฝ้าระวังพายุเมกี อีกลูก เพราะเป็นพายุขนาดใหญ่ที่อาจจะพาดมายังประเทศไทย และจะต้องประมาณการว่าจะมีผลกระทบต่อจังหวัดใดบ้าง

"กระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ปฏิบัติตามแผนการที่ได้ซักซ้อมไว้ อีกทั้งในวันที่ 23-27 ต.ค.นี้จะต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำทะเลหนุน ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับจ.สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และกทม. ส่วนน้ำเหนือนั้นเชื่อว่ายังสามารถรับมือได้ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง" นายวิบูลย์ ระบุ

ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ. ว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ราย งานสถิติโรงเรียนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัยเบื้องต้น พบว่า ประกอบด้วยโรงเรียนในสังกัดสพท.นครราชสีมา เขต 1-7 จำนวน 112 โรง ซึ่งตนสั่งการผอ.สพท.เข้าไปดูแลโรงเรียนที่ถูกตัดขาดจากเส้นทางคมนาคมและการสัญจรของผู้ปกครอง แต่ระยะดังกล่าวเป็นช่วงปิดภาคเรียน จึงไม่กระทบต่อการเรียนการสอน

-'ลพบุรี'ยังวิกฤตหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุน้ำท่วมในจังหวัดอื่นๆ ว่า ที่จ.ลพบุรี เขตตัวเมืองยังคงมีน้ำท่วมขัง ขณะที่ถนนสายพหลโยธิน ลพบุรี-สระบุรี ตั้งแต่ด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหารราช ถูกน้ำท่วมสูงกินระยะทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร บริเวณดังกล่าวถือเป็นย่านเศษรฐกิจ มีห้างสรรพสินค้าหลายแห่งซึ่งถูกน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ผู้ที่เดินทางมาจากกรุง เทพฯ ควรใช้ถนนเลี่ยงเมือง ส่วนถนนสายบ้านหมี่-โคกสำโรง รถทุกชนิดใช้การไม่ได้

นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม นายอำเภอบ้านหมี่ เปิดเผยว่า น้ำท่วมจังหวัดลพบุรีเข้าสู่วันที่ 3 สถานการณ์ยิ่งแย่ลง เพราะระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะอำเภอบ้านหมี่ ที่ตำบลดงพลับ ชาวบ้านกว่า 1,000 ครัวเรือนถูกตัดขาด ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตรจนต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว ส่วนตำบลหนองเมือง พุคา บางกระพี้ น้ำจากคลองชลประทานล้นสปิลเวย์ (ทางน้ำล้น) เข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ทางอำเภอและกำนันผู้ใหญ่บ้านต้องขนย้ายชาวบ้านออกมาอยู่ที่สูง ส่วนนาข้าวที่กำลังออกรวงเหลืองอร่ามและจะเก็บเกี่ยวได้ใน 2-3 วัน กว่า 1 หมื่นไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายหมดในพริบตา

-เจอแล้วรถตกถนน-ดับ 2

ความคืบหน้าการค้นหารถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่โดนน้ำซัดตกลงไปในคลองข้างถนนสายจงโก-ปากช่อง เขตหมู่ 11 ต.หนองรี อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 ต.ค. พ.ต.ท.พิทักษ์ กลิ่นหอม สารวัตรเวร สภ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี รับแจ้งจากอาสาสมัครมูลนิธิพงไล้ 16 ลำนารายณ์ ว่าพบรถคันดังกล่าวแล้ว โดยอยู่ห่างจากจุดที่รถตกเข้าไปในป่าอ้อยราว 300 เมตร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวน้ำท่วมสูงประมาณ 5 เมตร

เมื่อตำรวจเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุพบกลุ่มชาวบ้านหลายร้อยคนเดินทางมาดูเหตุการณ์ รถที่จมน้ำเป็นรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน กข-4696 นครนายก สภาพรถช่วงหน้ารถบริเวณหลังคาหน้ารถพบพังยุบลงมา กระจกแตกเป็นรู ภายในรถพบศพผู้เสียชีวิตอัดติดอยู่ท้ายรถ 2 ศพ พร้อมกับสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล 1 ตัว สภาพขึ้นอืด ทราบชื่อนายพร้อม กุศลส่ง อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/1 หมู่ 9 ต.บ้านพริก อ.บ้านนา จ.นครนายก อดีตผู้ใหญ่บ้าน และนางดวงกมล มารินันท์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/501 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ จึงนำศพส่งร.พ.ลำสนธิตรวจหาสาเหตุการตายอีกครั้ง

พ.ต.ท.ดนัย กล่าวว่า ชาวบ้านให้การว่าเวลาประมาณ 16.00 น. นายพร้อมขับรถมาถึง 4 แยกจงโกกำลังจะเลี้ยวเข้ามายังถนนสายเกิดเหตุ ชาวบ้านบอกว่าไม่ให้ขับรถมา เนื่องจากถนนถูกน้ำท่วมสูง แต่นายพร้อมไม่เชื่อยังขับตะลุยเข้าไป เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งมีลักษณะคล้ายแอ่งกระทะและมีน้ำไหลแรง รถจึงเสียหลักตกถนนและจมหายไปทันที

-'นครสวรรค์'อาจท่วมซ้ำ

ที่จ.นครสวรรค์ ผลจากภาวะฝนตกหนักใน จ.นครสวรรค์ และจ.เพชรบูรณ์ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมถนนหลายสายในพื้นที่ อ.ไพศาลี อ.ตากฟ้า อ.ท่าตะโก และอ.หนองบัว ส่งผลทำให้คอสะพานขาดในทางหลวงหมายเลข 11 อินทร์บุรี-พิจิตร ช่วง ก.ม.69+630 การจราจรใช้การไม่ได้ นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรเขตเทศบาลตำบลหนองบัว และพื้นที่หลายตำบลของ อ.หนองบัว ระดับน้ำยังไม่ลดลง ส่วนที่อ.ชุมแสง มีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มริมแม่น้ำน่าน

ที่อ.ท่าตะโก มีน้ำป่าไหลหลากอย่างกะทัน หันจากเพชรบูรณ์ ไหลเข้าท่วมตลาด อ.ท่าตะโก ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ส่วนบริเวณตลาดท่าตะโกน้ำท่วมราว 2 เมตร และบนถนนสายนครสวรรค์-ท่าตะโก มีน้ำท่วมถนนเป็นระยะทางยาวกว่าสิบก.ม.จากบ้านเขาขาดไปถึงตลาด อ.ท่าตะโก รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ ที่อ.ตาคลี ยังมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบริเวณกองบิน 4 อ.ตาคลี จนกำแพงของกองบิน 4 พังลงมา

-อ.ท่าเรือ-อยุธยาจมบาดาล

ทางจังหวัดนครสวรรค์ แจ้งด้วยว่า จากกรณีกรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าจะมีฝนตกชุกติดต่อกันไปอีก โดยเฉพาะอิทธิพลจากพายุเมกีอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังและเตรียมรับมือกับภัยน้ำท่วม หากต้องการความช่วยเหลือให้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต.หรือเทศบาลโดยด่วน

ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักสูงขึ้นอย่างน่ากลัว ทำให้ชาวบ้านตามริมแม่น้ำทั้ง 2 สายต่างไม่กล้านอนหลับ ต้องนั่งเฝ้ากันอยู่บนบ้านกันตลอดเวลา เพราะเกรงน้ำจะไหลเข้าท่วมพัดพาเอาข้าวของสูญหายไป

นางวิมล ไชยวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระบายน้ำอยู่ที่ความเร็ว 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนเจ้าพระยาระบายที่ความเร็ว 1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เฉลี่ยน้ำขึ้นชั่วโมงละ 5 ซ.ม. ขณะนี้อำเภอท่าเรือได้รับผลกระทบอย่างหนัก เฉลี่ยแล้วระดับน้ำขังสูง 1.50-2 เมตร บ้านเรือนถูกน้ำท่วมไปแล้วทุกตำบลกว่า 10,000 ครอบครัว

-'ชัยภูมิ'น้ำล้นเขื่อนลำคันฉู

ส่วนโบราณสถานต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน นายสุพจน์ พรหมมาโนช ผอ.สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ระบุว่า โบราณสถานที่อยู่นอกเกาะเมืองหลายแห่งถูกน้ำท่วม เช่น ที่หน้าวัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานที่สำคัญเหลืออีก 1.40 เมตรน้ำจะสูงล้นแผ่นบังเกอร์ ส่วนโบราณสถานกลุ่มอโยธยา เช่น วัดกุฎีดาว วัดมเหยงคณ์ น้ำท่วมสูง 50 ซ.ม. และกำลังเร่งทำคันดินรอบๆ แล้วใช้เครื่องสูบน้ำสูบออก

วันเดียวกัน ที่จ.กาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.กาฬสินธุ์ ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำเฝ้าระวังปัญหาภัยธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ทั้ง 18 อำเภอมีฝนตกหนักมากทั่วทุกพื้นที่

ที่จ.ชัยภูมิ ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องกว่า 3 วัน ทำให้น้ำป่าทะลักบนเทือกเขาพังเหย เขตรอยต่อ อ.บำเหน็จณรงค์ และอ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ และน้ำยังล้นสันเขื่อนลำคันฉู เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นวงกว้างหลายหมื่นไร่

ทั้งนี้ภาวะน้ำหลากท่วมไปจนถึงเขต อ.จัตุรัส พัดฝายดินขนาดใหญ่ขนาดสันฝายกว้างกว่า 10 เมตร ยาวกว่า 200 เมตร บริเวณบ้านโคกเริงรมย์ ฝายห้วยม่วง (ทำนบใหม่) ต.โคกเริงรมย์ และฝายชลประทานบ้านคำปิง-บ้านเพชร เขตเทศ บาลตำบลบ้านเพชร อ.บำเหน็จ ณรงค์ ขาดเสียหาย 2 แห่ง ทำให้น้ำป่าทะลักไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรสูงกว่า 1 เมตร เสียหายกินพื้นที่ 7 ตำบล รวมกว่า 1,000 หมู่บ้าน ทางอำเภอต้องเร่งเข้าช่วยเหลืออพยพประชาชน สัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่เป็นการด่วน

-'น้ำเหนือ'เข้าปทุมฯแล้ว

ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี รุดลงพื้นที่ตรวจเหตุน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตอ.สามโคก และอ.เมืองปทุมฯ โดยด่วนหลังจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 2 เมตรในช่วงเวลาราว 2 ชั่วโมงเศษ โดยเป็นปริมาณน้ำเหนือและน้ำที่ถูกปล่อยจากแม่น้ำป่าสักลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน วัด สถานีอนามัย และโรงเรียน ที่อยู่ติดริมแม่เจ้าพระยาเป็นวงกว้าง

นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการ จ.ปทุม ธานี สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ในแต่ละพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและตรวจสอบระดับน้ำทุก 1 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ กระสอบทราย และกำลังคน และประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเตรียมรับมือหากมีน้ำท่วมเข้าบ้านเรือนอย่างฉับพลัน สามารถแจ้งประสานขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง

-น.ร.บุรีรัมย์จมฝายตาย

ที่จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านม.4 บ.ขี้ตุ่น ต.โคกสะอาด อ.ลำปลายมาศ แจ้งว่า เกิดเหตุเด็กนักเรียนชั้น ม.3 สองคนพลัดตกน้ำจมหายไปบริเวณฝายน้ำล้นบ้านสระขี้ตุ่น ต่อมา นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอลำปลายมาศ รีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทีมประดาน้ำต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงงมพบศพแรก ทราบชื่อผู้ตาย นายพัชรวิชญ์ พรหมบุตร อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ร.ร.บ้านว่านเขื่อนค้อวิทยา แต่ยังไม่พบร่างด.ช.กฤษดา สอนเรือง อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.3 ร.ร.ตลาดโพธิ์พิทยาคม

สอบถามนายณัฐกานต์ สรรญพงษ์ อายุ 15 ปี ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ถูกน้ำพัดตกฝายน้ำล้นครั้งนี้ ระบุว่า ตนพร้อมด้วยนายพัชรวิชญ์และ ด.ช.กฤษดา พากันมาที่ฝายน้ำล้น บ.ขี้ตุ่น เพื่อข้ามสันฝายไปยังกระท่อมอีกฝั่งหนึ่งเพื่อซื้อไก่ ชน แต่ระหว่างกำลังเดินข้ามสันฝายที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ได้พัดเอาเพื่อนทั้งสองคนตกลงไปในน้ำ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOakU1TVRBMU13PT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1DMHhNQzB4T1E9PQ==

ผู้ว่าโคราชเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย

นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าฯนครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่าน้ำท่วมคราวนี้ชาวบ้านที่อำเภอปักธงชัยบอกว่าตั้งแต่ตั้งชุมชนมา 102 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์หนักเช่นนี้ ส่วนที่ตัวเมืองนครราชสีมา นายกเทศมนตรีตอนนี้อายุ 47 ปี ก็บอกว่าไม่เคยเจอน้ำเยอะขนาดนี้
ขณะนี้จุดที่มีปัญหามากที่สุดมี 2 จุด จุดแรกที่ อ.ปักธงชัย มีระดับน้ำสูงมากไหลมาจากลำพระเพลิง ส่งผลให้ประชาชนในปักธงชัยในเขตเทศบาลเมืองปัก เทศบาลปักธงชัย ประชาชนประมาณ 40,000 คน และประชาชนนอกเขตเทศบาลอีกรอบนอกเขตอีก 20,000 คน ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่ท่วมสูงมาก บางจุดมิดหลังคาบ้าน ในส่วนการช่วยเหลือนั้น เมื่อการไฟฟ้าฯต้องตัดไฟ ทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารไปด้วย จึงประสานงานการไฟฟ้าฯให้ประชาสัมพันธ์ประชาชนระมัดระวังในการใช้ไฟ เพราะจะมีการจ่ายไฟฟ้าในบางจุดที่สามารถจ่ายไฟฟ้า เพื่อให้หุงหาอาหารได้ พร้อมส่งข้าวกล่อง 2,000 กล่องไปให้การช่วยเหลือในจุดที่ไฟดับ
อย่างไรก็ตาม ยังประสบปัญหาไม่สามารถใช้เรือเข้าไปให้การช่วยเหลือได้ เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยว ต้องใช้รถจีเอ็มซีเข้าไปรับคนออกมาจากจุดที่ประสบภัย โดยมีจุดแจกจ่ายอาหารที่ สภ.ปักธงชัย ล่าสุดส่งอาหารกระป๋องเข้าไป 4 หมื่นกระป๋องในจุดนี้
จุดที่สองที่น่าเป็นห่วง คือ ด้านทิศเหนือของถนนมิตรภาพ บริเวณเทศบาลนครนครราชสีมาและพื้นที่นอกเขตที่ติดต่อกัน เพราะได้รับผลกระทบจากน้ำที่เอ่อจากลำตะคองและลำบริบูรณ์ ที่ทะลักเข้ามามากกว่าการประมาณการของชลประทาน ทำให้ทางจังหวัดไม่สามารถแจ้งเตือนภัยได้ จุดสำคัญคือโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาที่ระดับน้ำสูงมากกว่า 1 เมตรแล้ว และมีรายงานว่าระดับน้ำจะสูงมากขึ้นอีก ล่าสุดระดับน้ำสูงประมาณ 1.2 เมตร เบื้องต้นได้ย้ายผู้ป่วยขึ้นในชั้นที่สูงขึ้น พร้อมเร่งขนเครื่องมือแพทย์หนีน้ำ และพยายามรักษาเครื่องไฟฟ้าของโรงพยาบาลอย่างเต็มที่ ซึ่งมีปัญหาในการลำเลียงกระสอบทราย เพราะไม่สามารถนำรถจีเอ็มซีและเรือเข้าไปได้เพราะกระแสน้ำเชี่ยวและท่วมสูง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=474550

น้ำล้นเขื่อนลำปะทาวสูงเพิ่มทะลักท่วมเมือง

สถานการณ์น้ำท่วม จ.ชัยภูมิ ล่าสุด หลังจังหวัดแจ้งเตือนเขื่อนลำปะทาววิกฤต รับน้ำไม่ไหวจากน้ำป่าบนเทือกเขาภูแลนคาทะลักล้นสันเขื่อนสูงกว่า 150 ซม.สูงสุดในรอบ 30 ปีต้องเร่งอพยพประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ 25 ชุมชน ขึ้นสู่ที่สูงมาตั้งแต่ช่วงเช้า และปริมาณน้ำถูกระบายออกเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ สูงกว่า 2 เมตรเสียหายไปแล้วรวม 2 ชุมชนหนองบ่อและชุมชนกุดแคน กว่า 300 หลังคาเรือน และระดับน้ำท่วมยังขยายวงเข้าท่วมในเขตชุมชนหินตั้ง,หนองบัวเมือง,ห้าแยกโนนไฮ,โนสาทรบางส่วนมีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตรแล้ว
รวมทั้งโรงพยาบาลชัยภูมิ ที่มีประชาชนนับ 1,000 คน เดินทางมาคอยให้รับการรักษา ขณะนี้ไม่สามารถนำรถทุกชนิดพาเข้าภายในโรงพยาบาลได้ ต้องหันมาใช้เรือท้องแบนช่วยลำเรียงผู้ป่วยเข้าส่งเข้าบริเวณด้านประตูข้างติดโรงพยาบาลของโรงแรมสยามริเวอร์แทน เพราะด้านหน้าทั้งทางเข้าและออกของโรงพยาบาลต้องใช้กระสอบทรายจำนวนมากกั้นไว้เพื่อไม่ให้น้ำที่เริ่มท่วมมีระดับสูงกว่า 1 เมตร ไม่ให้ผ่านเข้าไปสร้างความเสียหายในชั้นล่างของโรงพยาบาลได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=474875&lang=T&cat=

"นครสวรรค์"ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว หลังน้ำท่วมหลายอำเภอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ได้เกิดฝนตกตลอดเวลา และน้ำป่าไหลหลากในเขตหลายอำเภอของจังหวัดนครสวรรค์ ได้ทำให้เกือบทุกอำเภอของจังหวัดนครสวรรค์ได้เกิดน้ำท่วมแล้ว และจังหวัดนครสวรรค์ได้ออกประกาศให้พื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ทั้ง 15 อำเภอเป็นเขตภัยพิบัติแล้ว เวลานี้ในเขตพื้นที่อำเภอท่าตะโก ที่เป็นพื้นที่รับน้ำจากจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ไหลมาและผ่านไปยังบึงบอระเพ็ด ปรากฏว่าน้ำที่ไหลมาในช่วงกลางดึก ถึงรุ่งเช้าปรากฏว่าน้ำได้ไหลบ่าท่วมตัวตลาด เขตชุมชนอำเภอท่าตะโก สูงถึงเอว สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่นอย่างหนัก เพราะน้ำที่ไหลบ่ามากลางดึก ทำให้ร้านค้าทั้งหลายไม่ได้เตรียมตัว น้ำจึงไหลบ่าเข้าท่วมระดับน้ำถึงบั้นเอว สร้างความโกลาหลและความเดือดร้อนอย่างหนักให้กับประชาชน


นายมานพ ศรีผึ้ง นายก อบจ.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า ตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเท่าอายุตนที่เกิดมา ไม่เคยพบเห็นน้ำท่วมเท่าปีนี้ และตนได้ระดมช่วยเหลือเบื้องต้นในการแจกถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้งและเวชภัณฑ์โดยมีนายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ออกเยี่ยมเยียนและดำเนินการสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือแล้ว ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นชายอยู่ที่หมู่ 4 ต.ท่าตะโก เห็นน้ำป่าไหลบ่ามาท่วมพื้นที่ จึงออกลงข่ายจับปลาและประสบเหตุจมน้ำเสียชีวิตด้วย สำหรับพื้นที่อำเภออื่นๆ ไม่ว่า อ.หนองบัว อ.ไพศาลี อ.ตากฟ้า อ.ตาคลี อ.บรรพตพิสัย อ.ลาดยาว อ.ชุมตาบงและอำเภออื่นๆ อบจ.นครสวรรค์จะระดมสรรพกัลังและงบประมาณเข้าไปช่วยเหลือแก้ไขต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสภาพน้ำท่วมในขณะที่หลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกลงมาเป็นระยะๆ อำเภอหนองบัว อ.ไพศาลี ที่ถือว่าเป็นพื้นที่ดอนหรือเป็นแผ่นดินอีสานของจังหวัดนครสวรรค์ ก็ได้ถูกน้ำท่วมอย่างหนักในปีนี้ โดยเฉพาะ อ.หนองบัว ที่มีโรงสีข้าวขนาดใหญ่จำนวนร่วม 10 แห่ง ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เพราะน้ำได้ไหลบ่าในตอนกลางคืนเข้าท่วมข้าวเปลือกในโรงสีที่แต่ละแห่งมีข้าวเปลือกอย่างน้อยที่สุดระหว่างโรงละกว่า 100 เกวียนถึงนับพันเกวียนที่ได้ซื้อตุนไว้ และบริษัทประกันความเสียหาย รับประกันเพียง5% แต่ละโรงถูกน้ำท่วมกองข้าวเปลือกอย่างมากมาย ความเสียหายไม่น้อยกว่า100ล้านบาทในขณะนี้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1287475818&grpid=03&catid=03&utm_source=twitterfeed&utm_medium=twitter

ร.พ.พิมายโคราชใกล้ขาดออกซิเจนเหลว

ร.พ.พิมาย ใกล้ขาดแคลนออกซิเจนเหลวสำหรับผ่าตัดแล้ว หลัง เส้นทางคมนาคม เป็นปัญหาจากน้ำท่วมหนัก ขณะบรรยากาศในตัวเมือง จ.นครราชสีมา เช้านี้ ยังคงมีฝนตกโปรยปราย



นายแพทย์ชัชวาล ลีลาเจริญพร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิมาย กล่าวยืนยันว่า ทางโรงพยาบาลยังสามารถให้บริการผู้ป่วยได้ทุกประเภท เครื่องมือต่างๆ ยังสามารถใช้งานได้ โดยคนไข้ที่ไม่สามารถส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้และถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลพิมาย ทางทีมแพทย์ก็จะประเมินอาการ หากอาการไม่หนักมากนัก ก็จะรับตัวไปรักษา แต่หากอาการหนัก ก็อาจจะพิจารณานำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง พร้อมกันนี้

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิมาย กล่าวยอมรับว่า ออกซิเจนเหลว ที่ใช้กับผู้ป่วยที่ต้องทำการผ่าตัด จึงอยู่ได้เพียงแค่ 2-3 วัน เนื่องจากเส้นทางคมนาคม ขนส่ง ไม่สามารถใช้งานได้ ในขณะนี้ ซึ่งทางโรงพยาบาลพิมาย มีผู้ป่วยที่ต้องใช้ออกซิเจนเหลว อยู่ 4-5 ราย

ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายแล้วรวม 5 ราย และมีผู้ได้รับความเดือดร้อนแล้วร่วม 100,000 คน

ขณะที่ บรรยากาศ เทศบาลนครนครราชสีมา ยังคงมีฝนตกโปรยปรายเป็นระยะ และอากาศบนท้องฟ้ายังมืดครึ้ม ตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งวันนี้ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เตรียมเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และสถานการณ์น้ำ ในช่วงเวลา 09.00 น. วันนี้ ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.innnews.co.th/local.php?nid=249864

เขื่อนจุฬาภรณ์รับน้ำไม่ไหว น้ำท่วมชัยภูมิ อ่วมสุดในรอบ 12 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. นายจรินทร์ จักกะพาก ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านถูกน้ำท่วม 3 ตำบล ของอำเภอเกษตรสมบูรณ์ โดยเข้ารับฟังสรุปสถานการณ์ ที่ อบต.บ้านยาง จากนั้นนำถุงยังชีพ ข้าวกล่อง 900 ชุด นั่งเรือท้องแบนข้ามน้ำไปมอบให้ราษฎรบ้านไร่ ม.7 บ้านท่าฉาง ม. 8 และบ้านท่าเดื่อ ม. 9 ต..บ้านยาง อ.เกษตรสมบูรณ์ ซึ่งถูกน้ำท่วมขังทางเข้าหมู่บ้านสูงกว่า 80 ซม. รถยนต์วิ่งผ่านไม่ได้ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมา 2-3 วันแล้ว พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ได้รับความเดือดร้อน 1,140 ครอบครัว


นอกจากนั้น น้ำยังได้เอ่อเข้าท่วมถนนสายหลักในตัวอำเภอเกษตรสมบูรณ์ สูงกว่า 50 ซม. ท่วมสถานที่ราชการหลายแห่ง ทั้งที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาลตำบล สถานีตำรวจ และโรงพยาบาล ชาวบ้านไปติดต่อราชการด้วยความยากลำบาก ถนนทางเข้าทางออกอำเภอท่วมสูง รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ ทางหน่วย นพค. 55 ต้องนำรถบรรทุก ไปรับส่งชาวบ้าน และนำกำลังออกไป ช่วยเจ้าหน้าที่อำเภอ และท้องถิ่น ช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่สูง เนื่องจากระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง


การเดินทางต้องนั่งเรือทองแบน ของ หน่วย นพค 55 ผ่านท้องนา เนื่องจากทางเข้าถูกน้ำท่วมสูง น้ำยังคงไหลแรง แต่ระดับน้ำเริ่มทรงตัว สภาพในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมบ้านเรือนเป็นช่วงๆ บางช่วงท่วมสูง 1.5 เมตร มีน้ำไหลแรง ต้องผูกเชือกโยงให้ชาวบ้านยึดเวลาเดินข้าม บางจุดไม่สามารถประกอบอาหารได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ จึงสั่งการให้นายอำเภอ และนายก อบต. ตั้งโรงประกอบอาหาร แล้วนำส่งถึงชาวบ้านทุกมื้อ เริ่มมื้อแรก เย็นนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ไปจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมขอความร่วมมือ สื่อมวลชน ช่วยแจ้งข้อมูลน้ำท่วมให้ทราบด้วย เพื่อลงไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที


สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ถือว่าหนักสุดในรอบ 12 ปี ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนักเมื่อปี 2542 แต่ไม่หนักเช่นปีนี้ สาเหตุเกิดจาก ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำป่าสะสมบนภูเขา จำนวนมาก ประกอบกับน้ำจากเขื่อนจุฬาภรณ์ระดับเก็บกัก 188 ล้าน ลบ.ม. รับน้ำไม่ไหว ระบายน้ำลงทางลำน้ำพรมวันละ 25 ล้าน ลบ.ม. น้ำเหล่านี้ไหลลงผ่านที่นาบ้านเรือนราษฎร ก่อนจะไหลลงลำน้ำพองที่ จ.ขอนแก่น ต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1287476861&grpid=03

น้ำเขื่อนลำปะทาวไหลเข้าท่วมเมืองชัยภูมิแล้ว

น้ำล้นเขื่อนลำปะทาวทะลักเข้าท่วม อ.เมืองชัยภูมิแล้ว ปริมาณน้ำสูง 1.50 เมตร เทศบาลต้องเร่งจัดรถ 6-10 ล้อ เร่งอพยพชาวบ้านในเขต 25 ชุมชน

ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เขต อ.เมืองชัยภูมิ อพยพสิ่งของขึ้นที่สูง เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนบนสันเขื่อนลำปะทาว อ.แก้งคร้อ ตอนบน และเขื่อนลำปะทาว ตอนล่าง เขต อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งมีความจุ กว่า 66 ล้าน ลบ.ม. จนเขื่อนไม่สามารถรองรับได้ จึงทำให้น้ำล้นสันเขื่อน มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ซึ่งมีปริมาณ 91 ซม. ล่าสุดระดับน้ำล้นสันเขื่อนพุ่งสูงขึ้นที่ 1.50 เมตรแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการติดตามสถานการณ์และติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่มีทั้งหมด 19 จุด เพื่อระบายน้ำออกนอกเมืองขณะนี้ไม่สามารถสูบน้ำได้แล้ว เพราะระดับน้ำล้นตลิ่งและตีกลับไหลเข้าเมืองทั้งหมดแล้ว เบื้องต้นน้ำได้ไหลเข้าท่วมชุมชนกุดแคน และชุมชนหนองบ่อ ปริมาณน้ำสูง 2 เมตร เสียหาย 300 หลังคาเรือน คาดว่าอีกประมาณ 1 ชม. น้ำจะไหลเข้าท่วมภายในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ

ขณะนี้ทางเทศบาลเมืองชัยภูมิได้นำรถบรรทุก 10 ล้อ มารอรับผู้ป่วยที่จะเดินทางมารับการรักษา ที่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ ถนนบรรณาการ เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ เนื่องจากถนนหน้า รพ.ชัยภูมิถูกน้ำท่วมสูงถึง 1 เมตร ทำให้ยานพาหนะขนาดเล็กไม่สามารถขนผู้ป่วยเข้าไปรับการรักษาใน รพ.ได้

ขณะที่ด้านสถานการณ์น้ำบนเขื่อนจุฬาภรณ์ อ.คอนสาร ที่มีความจุกว่า 188 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมีระดับน้ำล้นสันเขื่อนสูงกว่า 1 .50 เมตร ด้วยเช่นกัน ขณะนี้ทางเขื่อนเร่งระบายน้ำออก ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมเขต อ.คอนสาร, เกษตรสมบูรณ์, ภูเขียว และอ.บ้านแท่น และคาดว่าจะไหลเข้าท่วมอำเภอใกล้เคียงใน จ.ขอนแก่นภายใน 2-3 วันนี้

ขณะนี้น้ำที่เอ่อท่วมได้ขยายออกเป็นวงกว้าง ทำให้ถนนสายหลักทางเข้าอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ผ่าน อ.หนองบัวแดง เข้า อ.บ้านเดื่อ น้ำท่วมถนนและพัดรุนแรง มี 1เมตร ไม่สามารถใช้เส้นทางนี้ผ่านเข้า-ออกได้ ซึ่งมีระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร

นายปฤหัส วงศ์ชัยภูมิ ชลประทานจ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ในปีนี้ถือว่าหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี เนื่องจากเทียบปริมาณน้ำที่เข้าท่วม อ.เมืองชัยภูมิ ในปีนี้สูงกว่า 2 เท่า ของปีที่เคยเกินน้ำท่วมใหญ่ในตัวเมือง มีปริมาณน้ำเข้ารวมกว่า 400 ล้าน ลบ.ม.และเกิดการท่วมขังนานกว่า 2 เดือน แต่ปี 2553 เทียบปริมาณน้ำที่ไหลเข้าท่วมมีมากกว่า 800 ล้าน ลบ.ม. เฉลี่ยปริมาณน้ำจากส่วนเขื่อนลำปะทาวที่จะไหลเข้าท่วม อ.เมือง ต่อวันไม่น้อยกว่า 15 ล้าน ลบ.ม.

ในภาพรวมทั้ง จ.ชัยภูมิ มีแหล่งเก็บกักน้ำเขื่อนขนาดใหญ่ทั้งหมด รวม 13 แห่ง รวมความจุทั้งหมด 340 ล้าน ลบ.ม.ขณะนี้ไม่สามารถรับน้ำได้แล้ว ซึ่งยังมีปริมาณน้ำล้นเขื่อนทั้งหมดที่จะต้องถูกปล่อยลงสู่แหล่งน้ำต่างๆ จนล้นตลิ่งทั้งหมด อีกไม่น้อยกว่า 1,200 ล้าน ลบ.ม. จึงทำให้ปีนี้ในเขตพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ทั้งหมด 16 อำเภอ ต้องเตรียมรับมือน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 30 ปี อย่างเลี่ยงไม่ได้ใน 2-3 วันนี้ต่อไปจากนี้



Tags : น้ำท่วมชัยภูมิ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/life/20101019/358446/น้ำเขื่อนลำปะทาวไหลเข้าท่วมเมืองชัยภูมิแล้ว.html

คลิปลับยุบ ปชป.

คลิปลับยุบ ปชป. การเมืองในมุ้งหรือนอกมุ้ง


จากกรณีการนำเสนอคลิปลับในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ของฝ่ายเพื่อไทย เล่นเอาหลายวงการสั่นสะเทือน แม้กระทั่งกระบวนการยุติธรรมขาเก้าอี้ยังสั่นไม่น้อย งานนี้พรรคเก่าแก่แห่งเอเชีย จะรอดข้ามฝั่งคลองไปได้อย่างไร ขณะที่นักวิชาการ อดีต ส.ส.ร. ออกโรง แย้มอาจจะไม่ใช่ฝ่ายตรงข้าม แต่คนในมุ้งหักหลังกันเอง...

นายคณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ถึงเรื่องดังกล่าวว่า "แม้ไม่มีคลิปดังกล่าว ภาพลักษณ์ของศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นที่สงสัยอยู่แล้ว ว่ามีความเป็นกลางและมีอิสระแท้จริงหรือไม่ ขณะที่ต้องยอมรับว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคการเมืองใด ก็จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลมาโดยตลอด แต่หากต้องมาพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่สังคมเชื่อว่าหลักฐานที่มีอยู่ เพียงพอที่จะยุบพรรคได้ ประกอบกับมีคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกมา ยิ่งทำให้สังคมเชื่อมากขึ้นว่ามีการกระทำผิดจริง"

ทั้งนี้ นายคณิน ยังวิเคราะห์คลิปที่พรรคเพื่อไทยนำออกมาเผยแพร่ว่า "หากพรรค ปชป. ถูกยุบจริง อาจจะต้องสูญเสียขั้วอำนาจให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง ด้วยเหตุผลที่รู้กันหรือไม่รู้กัน เราก็ไม่ทราบได้ แต่อาจเป็นช่องทางให้คนบางกลุ่มหาทางวิ่งเต้นให้มีการล็อบบี้ ตามปกติก็ไม่น่าเชื่อว่า จะมีการล็อบบี้แบบนี้ขึ้น เพราะศาลพึงต้องระมัดระวังเรื่องนี้ตลอด โดยเฉพาะผู้ที่ดำรงตำแหน่งเลขานุการศาล จะต้องไม่ไปติดต่อหรือดำเนินการใดๆ ที่มีลักษณะแทรกแซง หรือเปิดช่องให้คนภายนอกหรือคู่กรณีเข้ามาแทรกแซงกระบวนการของศาล เพราะศาลรัฐธรรมนูญคือการเมือง และโดยสามัญสำนึกการกระทำแบบนี้ ต้องทำในทางลับ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่มีคลิปดังกล่าวออกมาได้"

ส่วนกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร อดีต ส.ส.ร. มองว่า "เรื่องนี้อาจเกิดจากความชะล่าใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือเกิดจากคนที่หักหลังกันเอง เพราะการยุบพรรคใหญ่ๆ แต่ละครั้งจะมีผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ทั้งภายในพรรคและนอกพรรค โดยส่วนตัวสันนิษฐานว่า เรื่องดังกล่าวคงไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้กระทำ เพราะคนที่ถ่ายรูปอัดเสียงต้องเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับพรรคประชาธิปัตย์ และอาจเกิดจากกระบวนการยุติธรรมทางการเมืองของประเทศไทย ที่เริ่มมีปัญหาตั้งแต่ปี 2549 จากปัญหาเรื่อง 2 มาตรฐาน ที่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงอยู่ตลอดเวลา"

อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดีออกมาหัวหรือก้อยนั้น นายคณิน กล่าวว่า "การยุบพรรค ปชป. ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อบ้านเมือง แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหรือยุบสภา ดังนั้นการตัดสินคดีของศาลจึงน่าจะเป็นตัวชี้ขาดได้ว่า บ้านเมืองของเราจะเดินหน้าไปในทิศทางใด โดยมองว่า คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้าย ที่จะทำให้ปัญหาความรุนแรงต่างๆ กลับเข้าสู่ระบบการเมือง ทั้งนี้ตนไม่ได้มีอคติกับพรรค ปชป. แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ปชป. เห็นว่า อาจจะเป็นทางออกของประเทศก็ได้ อย่างไรก็ตามยอมรับว่า เรื่องนี้พูดยาก เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง แต่ผมเชื่อว่า บ้านเมืองจะขึ้นกับคำตัดสินของศาล"

ขณะที่ รศ.ดร.สมชัย ศรีสุทธิยากร อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แสดงความคิดเห็นถึงคลิปดังกล่าวที่มีอยู่ 5 คลิป โดยตั้งข้อสังเกตว่า คลิปแรกที่เห็นเป็นภาพนิ่ง และมีคำบรรยายใต้ภาพ ซึ่งดูแล้วก็ไม่รู้อยู่ที่ไหน วันใด และเวลาเท่าใด หากจะตัดสินก็อาจจะไม่เป็นธรรม ส่วนคลิปอื่นๆ เป็นภาพอยู่ในห้องประชุมศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่แน่ชัดว่า เนื้อหาที่หารือเป็นความพยายามล็อบบี้คดียุบพรรค ปชป.หรือไม่ ซึ่งอาจจะเป็นบรรยากาศการประชุมโดยทั่วไปก็เป็นได้ เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้น ก็น่าที่จะสามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ โดยไม่จำเป็นต้องปกปิด แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า เสียงในคลิปก็ไม่ค่อยชัดเจน

นอกจากนี้ รศ.ดร.สมชัย ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวเห็นว่า คลิปดังกล่าว มีผลทำให้ผู้ดูรู้สึกคล้อยตามค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า คนที่ปล่อยคลิปอาจมีวัตถุประสงค์ เพื่อต้องการลดความเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรค ปชป. ก่อนที่จะมีแนวโน้มว่าจะตัดสินคดีในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งอาจจะทำให้สังคมเกิดความคลอนแคลน หากศาลตัดสินเป็นประโยชน์กับพรรค ปชป. ดังนั้นส่วนตัวจึงเห็นว่า ศาลน่าจะต้องออกมาแถลง ชี้แจงข้อเท็จจริง ให้ประชาชนได้รับทราบ ว่าเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นอย่างไร มีเนื้อหา และมีผู้เข้าร่วมเป็นใครบ้าง ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใส และทำให้ประชาชนหมดความสงสัยไปได้

ส่วนบทสรุปสุดท้ายจะเป็นอย่างไร คดีนี้คงต้องขึ้นอยู่ที่คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนประชาชนจะมีความคิดเห็นไปในทิศทางใด ก็แล้วแต่วิจารณญาณและความเป็นกลางเฉพาะบุคคล.

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.thairath.co.th/content/pol/119571

search

search this site the web
search engine by freefind

ฝากไฟล์

YOUR IP