เพื่อการแสดงผลหน้าเว็ป SPVARIETY ที่ถูกต้องท่านควรใช้ IE8 Firefox & Google Chrome

Download Browsing Click Here

This page is optimized for IE8 Firefox & Google Chrome

นาซ่าชี้อาจมีมนุษย์ต่างดาวจริง หลังพบดาวเคราะห์เพิ่ม

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

นาซ่าชี้อาจมีมนุษย์ต่างดาวจริง หลังสำรวจเจอดาวเคราะห์อีกกว่า 1,000 ดวง

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ องค์การนาซ่า (National Aeronautics and Space Administration – NASA) ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า ในระบบสุริยะจักรวาลนี้อาจมีมนุษย์ต่างดาวจริง เพราะหลังจากที่องค์กรได้มีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์เคปเลอร์ในปี 2553 เพื่อทำการสำรวจจำนวนดาวเคราะห์ โดยติดตั้งเคปเลอร์ให้โคจรอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์ โลกและดาวอังคารกล้องโทรทัศน์เคปเลอร์ตรวจพบดาวเคราะห์อีกกว่า 1,235 ดวง

โดยนายวิลเลียม โบรัคกี้ หัวหน้านักวิทยาศาสตร์กล้องเคปเลอร์ กล่าวว่า ดวงดาว 54 ดาวเคราะห์จาก 1,000 กว่าดวงที่กล้องเคปเลอร์พบ อาจเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตอื่นก็ได้ แม้ขณะนี้จะยังไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัดก็ตาม แต่คาดว่าประมาณ 80% เป็นดาวเคราะห์จริง นอกจากนี้ยังมีนักดาราศาสตร์อีกคนที่ลงความเห็นว่า กล้องโทรทัศน์สำรวจอวกาศเคปเลอร์ตัวนี้มีความแม่นยำถึง 90%

สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์จะต้องพิสูจน์เพื่อยืนยันผลการสำรวจดาวเคราะห์กันต่อไปก็คือ ภาวะและเงื่อนไขที่จำเป็นในการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต อันได้แก่ ความเหมาะสมของอุณหภูมิ อากาศ แหล่งน้ำและก๊าซคาร์บอนเป็นต้น นอกจากนั้นสิ่งที่นักสำรวจทุกคนต้องคำนึงถึงเช่นกันคือ คำว่าสิ่งมีชีวิตไม่ได้หมายถึงแค่มนุษย์ สัตว์ หรือพืชที่เราคุ้นเคยบนโลกนี้เท่านั้น แต่อาจหมายถึงเชื้อแบคทีเรีย หรือสิ่งที่มนุษย์อย่างเรา ๆ อาจไม่คาดคิดว่าจะมีอยู่ในกาแลคซี่เดียวเราก็ตาม อีกทั้งสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนนั้น อาจจะไม่ฉลาดเฉลียวเท่ามนุษย์อย่างเรา ๆ ก็เป็นได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กระปุกดอทคอม

เผยแผนที่โลกปัจจุบัน ปกคลุมด้วยน้ำแข็งไปแล้วกว่าครึ่ง

แผนที่แสดงพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งทั่วโลก


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก noaa.gov

สมาคมวิจัยมหาสมุทรและบรรยากาศสากล หรือ NOAA เปิดเผยแผนที่แสดงสภาพภูมิประเทศโลกในปัจจุบัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแผ่นดินบนโลกถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งไปแล้วกว่าครึ่ง

โดยแผนที่ดังกล่าว ได้สร้างขึ้นจากภาพถ่ายดาวเทียมภาพล่าสุด แสดงให้เห็นว่า พื้นที่ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกากว่าครึ่งถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง อันเนื่องมาจากพายุฤดูหนาวกำลังเคลื่อนตัวเข้าปกคลุม และตั้งแต่ชายฝั่งตะวันตกของแคนาดา ไปจนถึงชายฝั่งตะวันออกของประเทศจีน ก็มีสภาพอากาศหนาวจัด ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะเช่นกัน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว หากรวมกับพื้นที่บริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้แล้ว ก็ถือเป็นพื้นที่เกินครึ่งของแผ่นดินบนโลกเลยทีเดียว โดยสมาคมวิจัยมหาสมุทรและบรรยากาศสากลได้ทำการวิจัยพื้นที่ที่มีน้ำแข็งปกคลุมและปริมาณหิมะ พบว่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แผ่นดินบนโลกถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งแล้วกว่า 59.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่กินพื้นที่เพียง 47.7% เท่านั้น ขณะที่ปริมาณหิมะที่ปกคลุมบนผิวโลกมีความหนาเฉลี่ยประมาณ 8.2 นิ้ว ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากเลยทีเดียว

ทั้งนี้ สภาพอากาศทั่วโลกในช่วง 2-3 ปีมานี้ ถือว่าแปรปรวนเป็นอย่างมากที่สุด โดยปรากฎการณ์ดังกล่าว ถูกเชื่อว่ามาจากสาเหตุหลัก 2 ประการ คือ การเปลี่ยนแปลงตามวัฏจักรของโลก และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่สูง ทำลายชั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลก จนทำให้เกิดปัญหาโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลายกลายเป็นน้ำเย็นเฉียบในทะเล เมื่อน้ำในทะเลมีอุณหภูมิต่ำลงมาก ก็มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศให้หนาวจัดในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เช่นในอเมริกาที่พายุหิมะกำลังถล่มอย่างหนักในหลายรัฐ ส่งผลให้ประชาชนต้องเผชิญกับความหนาวเย็นและหิมะที่ปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณก็เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง และวิถีชีวิตของคนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ส่วนในประเทศจีนก็หนาวจัดกว่าทุกปีที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากความหนาวเย็นไปหลายคนแล้ว

ขณะที่นักวิทยาศาสตร์หลายท่าน ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังจากวิกฤติสภาพอากาศได้เกิดขึ้นแล้ว มันจะเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทั่วโลกไปอย่างสิ้นเชิง พื้นที่ที่เคยร้อนจะเปลี่ยนเป็นหนาว พื้นที่หนาวจะร้อนขึ้น และอุณหภูมิของโลกโดยเฉลี่ยก็จะสูงขึ้นอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กระปุกดอทคอม

search

search this site the web
search engine by freefind

ฝากไฟล์

YOUR IP