ยุคเอ็ม 79 ถล่มเมืองบ่งบอกให้เห็นถึงความเป็น บ้านป่าเมืองเถื่อน ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนแขวนอยู่บนเส้นด้าย ขนาดชาวบ้านยังหวาดผวา จึงไม่แปลกที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะงดเดินทางมาเมืองไทย หากรัฐบาลยังกังวลอยู่กับ ความปลอดภัยในอำนาจของตัวเอง ต่อไป ชาวบ้านคงนอนตาไม่หลับ
กรณีของ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ที่ต้องสังเวยชีวิตกับเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นตัวอย่างของนโยบาย แบกปืนล่อเป้า ไปวันๆของรัฐบาล และยิ่งได้ยินเรื่องเล่าจากบันนังสตาด้วยแล้ว ทำใจลำบาก
จ่าเพียรกระดูกเหล็ก ถือว่าเป็นคนบันนังสตาไปโดยปริยายเพราะทั้งชีวิตเกือบ 40 ปี รับราชการอยู่ละแวกนั้น โดยเฉพาะที่ สภ.บันนังสตาแทบจะเป็นบ้านของจ่าเพียรไปแล้ว
ชาวบ้านรู้จักรักใคร่ ครอบครัวเพื่อนฝูงสังคมส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนบันนังสตา จ.ยะลา จนกระทั่งเหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้รุนแรงขึ้น และเห็นว่าจะเกษียณอายุราชการแล้วครอบครัวจ่าเพียรเลยเห็นตรงกันว่า น่าจะใช้ชีวิตกันอย่างสงบในบั้นปลายของชีวิต เพราะตลอดระยะเวลาที่รับราชการตำรวจมือปราบ ชีวิตจ่าเพียรเจียนอยู่เจียนไปมาตลอด ตั้งใจจะกลับบ้านเกิดที่ อ.กันตัง จ.ตรัง
ผู้บังคับบัญชา ผบช.ภ.9 เสนอให้มีการย้ายจ่าเพียรตามที่ต้องการ เรียบร้อยไปแล้ว รอให้ผู้ใหญ่อนุมัติเท่านั้น คิดว่าทุกอย่างคงไม่มีปัญหาเพราะทุกอย่างสมเหตุสมผล
อนิจจา ไม่ทันไร มีใบสั่งจากนักการเมือง ให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งย้ายใหม่บวกกับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจครั้งอัปยศที่สุด จะเป็นนักการเมืองคนไหน ชื่ออะไร ใครสั่งใครรับไปปฏิบัติ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ น่าจะรู้อยู่เต็มอก
จ่าเพียรเข้ามาทวงความเป็นธรรมกับผู้บังคับบัญชาถึง กทม. ขอเข้าพบนายกฯอภิสิทธิ์ แต่ต้องพบกับความผิดหวังกลับไป เพราะไม่ได้พบนายกฯอย่างที่หวังไว้ จ่าเพียรกลับไปแถลงข่าวทั้งน้ำตาลูกผู้ชายด้วยความคับแค้น ซึ่งเป็นผลตอบแทนจากการอุทิศชีวิตรับใช้ประเทศชาติอย่างกล้าหาญ
คำพูดของจ่าเพียร เป็นการแต่งตั้งโยกย้ายที่อัปยศที่สุด ทุจริตมากที่สุด และไร้ศักดิ์ศรีมากที่สุด อาจจะไม่สามารถกระตุ้นจิตสำนึกของผู้บังคับบัญชาได้
เรื่องเล่าที่อัปยศกว่านั้นก็คือ ระหว่างทำพิธีรดน้ำศพจ่าเพียรที่ อ.บันนังสตา ได้มีคำสั่งให้นำร่างไร้วิญญาณของจ่าเพียรไปที่ จ.สงขลา เพื่อให้นายกฯอภิสิทธิ์ได้มาร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพ ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตรที่ต้องนำร่างของจ่าเพียรเคลื่อนย้ายไป สร้างความผิดหวังให้กับชาวบ้านบันนังสตาอย่างมาก
วันเดียวยังไม่กล้ามาเหยียบบันนังสตา แต่จ่าเพียรต้องใช้ชีวิตเสี่ยงอยู่ที่นี่ถึง 30 กว่าปี ยุติธรรมหรือไม่ ว่ากันว่าพิธีสวดพระอภิธรรมศพวันนั้นหลังนายกฯเดินทางกลับแล้ว บรรดาข้าราชการที่มาต้อนรับเอาหน้าก็เผ่นกลับกันหมด เหลือแต่ครอบครัวจ่าเพียรตามลำพัง หรือ คุณค่าของวีรบุรุษ ก็มีอยู่แค่นี้เอง.
หมัดเหล็ก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/71403
เพื่อการแสดงผลหน้าเว็ป SPVARIETY ที่ถูกต้องท่านควรใช้ IE8 Firefox & Google Chrome
Download Browsing Click Here
This page is optimized for IE8 Firefox & Google Chrome
เขียนโดย sp ที่ 14:30
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น