เพื่อการแสดงผลหน้าเว็ป SPVARIETY ที่ถูกต้องท่านควรใช้ IE8 Firefox & Google Chrome

Download Browsing Click Here

This page is optimized for IE8 Firefox & Google Chrome

"กูเกิล เอิร์ธ 5.0" ทะลวงมหาสมุทร ทะลุดาวอังคาร!

โดย ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์ pairat@matichon.co.th
ผมไม่รู้ว่าแฟนๆ มติชน "ไลฟ์ แอนด์ เทค" เข้าไปใช้งาน กูเกิล เอิร์ธ กันบ้างหรือเปล่า แต่เข้าใจว่าทุกคนคงรู้จักมักคุ้นกับโปรแกรมแผนที่ผ่านดาวเทียมจากกูเกิลนี้ดีอยู่นะครับ เพราะเป็นข่าวเป็นคราวไม่หยุดหย่อน หลังสุดเห็นว่าพวกก่อการร้ายที่เข้าไปป่วนเมืองมุมไบที่อินเดีย ก็อาศัยกูเกิล เอิร์ธนี่แหละเป็นคู่มือ

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า กูเกิล เอิร์ธ ควรจะหายสาบสูญไปจากโลกออนไลน์นะครับ ผมว่ามันก็เหมือนๆ กับอะไรๆ อีกหลายอย่างที่ให้ผลทั้งสองด้าน ขึ้นอยู่กับว่าคนเราจะนำมันไปใช้งานในทางที่เป็นประโยชน์โภชผลหรือไม่เท่านั้นเอง

พูดเรื่องกูเกิล เอิร์ธ ขึ้นอีกครั้งเพราะอยากแนะนำให้ทุกคนทดลองกูเกิล เอิร์ธ 5.0 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของโปรแกรมนี้ครับ อย่างที่ผมจั่วหัวเอาไว้นั่นแหละมันสามารถพาเราทะลุทะลวงตั้งแต่พื้นมหาสมุทรไปยันดาวอังคารได้เลยทีเดียว อย่างนี้แล้วใครจะไปอดใจไหว

ที่สหรัฐอเมริกามีการเปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่นี้กันครึกโครมเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาครับในนครซานฟรานซิสโก เท่ไม่เบาเพราะหนึ่งในจำนวนผู้ที่ไปกล่าวเปิดตัวนั่นก็คือ อัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ดังกว่าเอาอีตอนที่เขียนหนังสือ "อันคอนวีเนียนท์ ทรูธ" หรือ "โลกร้อน" ออกเผยแพร่และเป็นที่ยอมรับกันไปทั่วโลก (ใครอยากอ่านภาษาไทย


สำนักพิมพ์มติชนมีแปลวางจำหน่ายแล้วครับ หาดูได้ตามร้านหนังสือทั่วไป)



อัล กอร์ บอกเล่าถึงคุณสมบัติของเวอร์ชั่นใหม่นี้ไว้ว่า จะนำเราดำดิ่งสู่มหาสมุทรซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกือบ 3 ใน 4 ของโลก และค้นพบสิ่งมหัศจรรย์มากมายที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน "คุณสามารถย้อนเวลากลับไปมองดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องบนโลกใบนี้ ซึ่งโดยมากแล้วเป็นผลมาจากน้ำมือมนุษย์ อย่างเช่น สามารถดูภาพการหลอมละลายของธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นั่นคือการหลอมละลายของธารน้ำแข็งกรินเนลล์ในอุทยานธารน้ำแข็งแห่งชาติ"

ครับ อัล กอร์ กำลังพูดถึงฟีเจอร์ใหม่ของเวอร์ชั่นนี้ ที่เรียกว่า "ฮิสทอริคอล อิเมเจอรี่" ที่สามารถนำเราย้อนเวลากลับไปดูเหตุการณ์ในอดีตได้ ด้วยการดึงเอาภาพถ่ายผ่านดาวเทียมเก่าในพื้นที่เดียวกันนำมาเปรียบเทียบกับภาพชุดใหม่ เพื่อให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจสร้างผลกระทบถึงขนาดทำให้เราๆ ท่านๆ เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนทัศนคติ ต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรของเราได้ และทำให้ เอริค ชมิดท์ หัวเรือใหญ่ของกูเกิลยืนยันว่า การเปิดตัว เวอร์ชั่น 5.0 ครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด

แผนที่ใต้ทะเลที่ว่านี้อยู่ในฟีเจอร์ "โอเชียน" ของกูเกิล เอิร์ธ ครับ ในความเห็นส่วนตัวของผม สิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่สนใจในเรื่องการสำรวจพื้นภูมิใต้ทะเลลึกในแบบ 3 มิตินั้น ไม่ใช่เพียงแค่แผนที่ภูมิทัศน์ใต้ทะเลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเนื้อหาของข้อมูลที่นำมาผสมผสานควบคู่ไปกับการเรียนรู้ภูมิทัศน์ที่เราไม่เคยพบเห็นมาก่อนจากนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และนักสำรวจมหาสมุทรระดับโลก ทั้งในรูปของภาพถ่าย ภาพวิดีโอ ข้อมูลจากเนชั่นแนล จีโอกราฟิกเป็นอาทิ ทำให้เราสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวภาพอันหลากหลายใต้น่านน้ำในหลายท้องถิ่นซึ่งจะมีประโยชน์มหาศาลสำหรับผู้ที่ศึกษาหรือชื่นชอบทางด้านนี้ และกูเกิลก็ไม่ลืมที่จะใส่ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเข้าไปด้วย อย่างเช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพทะเลของแหล่งโต้คลื่น ดำน้ำ หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่นๆ

ใครอยากเริ่มต้นผมขอให้ลองตรวจสอบแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลดังๆ ของบ้านเราดูเป็นปฐมครับ อย่างเช่นหมู่เกาสิมิลันหรือเกาะราชา เผื่อว่าจะได้มีโอกาสไปตรวจสอบสัมผัสกับสภาพจริงๆ ไปด้วยในเวลาต่อไงครับ

ฟีเจอร์ "ทัวร์ริ่ง" ที่มาใหม่พร้อมกับเวอร์ชั่นนี้ ช่วยให้เราสามารถสร้างชุดภาพและข้อมูลการเดินทางพร้อมคำบรรยายได้ด้วยการใช้ปุ่ม "บันทึก" เพื่อเดินทางจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ซูมเข้าออก และคลิกดูเนื้อหาจาก "บัลลูน" ที่จะแสดงคำบรรยายพร้อมเสียงพากย์ไปตลอดเส้นทาง น่าสนุกครับ

สุดท้ายที่อยากจะพูดถึงก็คือ ฟีเจอร์ มาร์ส 3D ที่เพิ่มเติมเข้ามาในแกเล็กซี่เสมือนจริงของกูเกิล นำเราสู่ดาวอังคารได้ในชั่วพริบตา ได้เห็นภาพความละเอียดสูงและภูมิทัศน์ดาวอังคารแบบ 3 มิติ หยุดดู ภูเขาไฟที่สูงที่สุดในระบบสุริยะอย่าง ภูเขาไฟ โอลิมปัส มอนส์ พร้อมข้อมูลที่ตัดทอนมาจาก "อะ ทราเวลลอร์ส ไกด์ ทู มาร์ส" อีกด้วย

ที่สำคัญ เขาบอกว่า กูเกิล เอิร์ธ ใช้งานได้ใน 40 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วยครับ...ไชโย!


http://clip-d.blogspot.com/2009/02/explore-ocean-in-google-earth-50.html
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01tec01070252&sectionid=0143&day=2009-02-07

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ Harddsik เช่น ไฟตกบ่อย Harddisk จะเสียจริงหรือ

17 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ Harddsik

มีความเชื่อต่างๆ นานาเกี่ยวกับ HDD.และการใช้งาน HDD.ซึ่งเป็นความเชื่อบางอย่างที่มันเป็นความเชื่อ
ที่ผิดๆ และทำให้เราไม่สามารถใช้งาน HDD. ได้อย่างเต็มที่ เรามาดูกันว่าความเชี่อเหล่านั้นมีอะไรบ้าง และข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ความเชื่อที่ 1 :

การฟอร์แมต HDD.บ่อยๆ อาจทำให้อายุการใช้งานของ HDD.สั้นลง

ข้อเท็จจริง : การฟอร์แมต HDD.ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม จะไม่ส่งผลต่อการทำงานของ HDD.แต่อย่างใด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่หลายๆ คนจะคิดว่ามีส่วนทำให้อายุการใช้งานสั้นลง แต่จริงๆ แล้ว เป็นความเชื่อที่ผิดๆ เท่านั้น
การฟอร์แมต HDD. ไม่ถือเป็นการทำงานที่จะทำให้ HDD.ต้องแบกรับภาะหนัก หัวอ่านของ HDD.จะไม่มีการสัมผัสกับแผ่นจานข้อมูลแต่อย่างใด (Platter) ระหว่างการฟอร์แมต
สรุปแล้วก็คือ เราสามารถฟอร์แมต HDD. 30 ครั้งต่อวัน ทุกวันเลยก็ได้ อายุการใช้งานมันก็จะไม่ต่างจากจาก HDD. อื่นๆ เลย

ความเชื่อที่ 2 :

การฟอร์แมต HDD.จะทำให้มีข้อมูล หรือปฎิกรณ์ ;อะไรสักอย่าง
วางซ้อนเพิ่มบนแผ่นดิสก์ ซึ่งมีผลทำให้เกิด;bad sector ได้

ข้อเท็จจริง : การฟอร์แมตจะไม่ทำให้เกิดข้อมูล หรืออะไรทั้งนั้นที่แผ่น HDD. เนื่องจาก HDD.เป็นระบบปิด ดั้งนั้นฝุ่นหรือปฏิกรณ์จะ ยากที่จะเข้าไปยังดิสก์ได้ และแม้จะมีฝุ่นก็ตามแต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฝุ่นจะต้ องมากับการฟอร์แมต

ความเชื่อที่ 3 :

การฟอร์แมต HDD. จะมีความเค้นต่อเข็มหัวอ่าน (head actuator) สูง

ข้อเท็จจริง : การฟอร์แมตมีการอ่านในแต่ละเซ็กเตอร์อย่างต่อเนื่อง และเป็นลำดับชั้น เช่น เซ็กเตอร์ที่ 500 เซ็กเตอร์ที่ 501 เซ็กเตอร์ที่ 502 และต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ ทำให้มีการเคลื่อนตัวของเข็มหัวอ่านน้อยมาก ดังนั้น ข้อเท็จจริงของความเชื่อนี้ก็คือ การฟอร์แมตจะไม่มีความเค้นสูงต่อเข็มหัวอ่าน HDD.

ความเชื่อที่ 4 :

การดีแฟรกเมนต์ (defragmenting) HDD.จะมีความเค้นที่หัวอ่านสูง

ข้อเท็จจริง : ข้อนี้ถือว่าเป็นเรื่องจริง เพราะการดีแฟรกเมนต์ต้องอาศัยการควานหาตำแหน่งของเซ็ กเตอร์อย่างสูง เนื่องจากการดีแฟรกเมนต์ก็คือการจัดระเบียบเซ็กเตอร์ ต่างๆ เพื่อไม่ให้หัวอ่านต้องทำงานหนักเวลาที่ใช้หาข้อมูลใ นการใช้งานจริง
ดังนั้น แม้ในกระบวนการดีแฟร็กเมนต์ จะทำให้เข็มหัวอ่านมีความเค้นสูงก็ตาม แต่หลังจากที่ได้ทำการดีแฟรกเมนต์แล้ว เข็มหัวอ่านก็ไม่ต้องทำงานหนัก เหมือนก่อนที่จะทำการดีแฟรกเมนต์ เพราะจะหาเซ็กเตอร์ได้เร็วขึ้น สะดวกขึ้น

ความเชื่อที่ 5 :

ถ้า HDD.ของคุณมี bad sector อยู่แล้ว การฟอร์แมต HDD.จะยิ่งทำให้ เกิดเซ็กเตอร์เสียเพิ่มขึ้น

ข้อเท็จจริง : ถ้า HDD. ของคุณมีเซ็กเตอร์เสียอยู่แล้ว แน่นอนว่าเมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ จะต้องพบเซ็กเอตอร์เสียเพื่มขึ้นเรื่อยๆ
การฟอร์แมตแล้วเห็นเซ็กเตอร์เสียเพิ่มขึ้นนั้น สาเหตุไม่ได้เป็นเพราะการฟอร์แมต เพียงแต่ว่าการฟอร์แมตจะทำให้เราได้พบเห็นเซ็กเตอร์ท ี่เสียเพิ่มขึ้นนั่นเอง เพราะยูทิลิตี้สำหรับทำการฟอร์แมตนั้น จะสแกนและตรวจสอบ HDD.ด้วย ทำให้พบเห็นเซ็กเตอร์ที่เสียเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา

ความเชื่อที่ 6 :

การดาวน์โหลดโปรแกรมและไฟล์ต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตจำนวนมาก จะทำให้
อายุการใช้งานของ HDD.สั้นลง

ข้อเท็จจริง : การดาวน์โหลดจากอินเตอร์เน็ตไม่ทำให้อายุการใช้งานขอ ง HDD.ลดน้อยลงไป HDD.จะมีการหมุนอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะมีการดาวน์โหลดไ ฟล์ หรือว่าไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม ดังนี้โอกาสที่จะเสียขณะทำการดาวน์โหลด กับขณะที่เปิดคอมพิวเตอร์ไว้เฉยๆ ก็มีเท่ากัน อายุการใช้งานท่าเดิม

ความเชื่อที่ 7 :

พลังงาน (กระแสไฟ) ที่ไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเซ็กเตอร์เสีย

ข้อเท็จจริง : กระแสไฟฟ้าที่ไม่เพียงพอ กับกระแสไฟฟ้าถูกตัดทันทีทันใด จะไม่ก่อให้เกิดเซ็กเตอร์เสีย เพราะในช่วงที่กระแสไฟไม่เพียงพอ หรือมีการตัดกระแสไฟนั้น เข็มหัวอ่านจะพักตัวโดยอัตโนมัติเพื่อไม่ให้เกิดความ เสี่ยงต่อแผ่นดิสก์ ดังนั้น จึงไม่มีทางที่จะมีการสร้างเซ็กเตอร์เสียได้ ที่เสียหายก็อาจเป็นความเสียหายของ OS.มากกว่า

ความเชื่อที่ 8 :

ระบบกำลังไฟ หรือระบบสำรองไฟที่มีราคาถูก และไม่มีคุณภาพ อาจจะบั่นทอน
อายุการใช้งานของ HDD.เรื่อย ๆ และทำให้ HDD.ตายลงอย่างช้า ๆ

ข้อเท็จจริง : ระบบกำลังไฟหรือระบบสำรองไฟที่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน จะไม่ทำให้ HDD.ตายลงอย่างช้าๆ แต่หากระบบไม่สามารถควบคุมกระแสไฟได้ จนทำให้กระแสไฟฟ้าปริมาณมากไหลทะลักสู่เครื่องคอมพิว เตอร์
อาจทำให้ HDD.ตายในทันที ไม่ใช่ตายลงอย่างช้า ๆ
แต่ถ้าไม่สามารถให้กระแสไฟเพียงพอแก่การทำงานได้ ดิสก์ก็แค่มาสามารถทำงานได้เต็มที่ ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ หรืออาจไม่ทำงานเลย แต่ HDD.จะไม่ตาย แต่ OS อาจตายหรือ พิการ

ความเชื่อที่ 9 :

ถ้า HDD. มีการหมุนความเร็วของดิสก์แบบขึ้นๆ ลงๆ นั่นเป็นเพราะว่า
ระบบสำรองไฟในบางครั้งสามารถส่งกระแสไปที่พอสำหรับกา รทำงานได้
มันจึงหมุนเร็วขึ้น แต่เมื่อมันไม่สามารถให้กระแสไฟที่เพียงพอได้ มันจึง
หมุนช้าลง

ข้อเท็จจริง : ในกรณีที่กำลังไฟตกฮวบ มันจะทำให้ระบบทั้งหมดถูกตัดไฟ ชะงักการทำงาน และจะทำให้เครื่องแฮงก์ ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่มีการหมุนของ HDD.ให้เห็นอย่างแน่นอน
หมุนเร็วขึ้นหมุนลดลงนั้น เป็นการการปกติของ HDD. ที่จะทำการวัดขนาดของดิสก์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเตรียมความพร้อมในการใ ช้งานแต่ละครั้ง

ความเชื่อที่ 10 :

เสียงคลิกที่ได้ยินจาก HDD. เกิดจากการพักการทำงานของหัวอ่าน

ข้อเท็จจริง : เสียงคลิกที่ได้ยินจากการทำงานของ HDD. อาจเป็นได้ทั้งเสียงการเตรียมพร้อมที่จะเขียนข้อมูล (เหมือนอย่างในความเชื่อที่ 9) หรืออาจเป็นเสียงการสะดุดของหัวอ่านบนแผ่น HDD.

ความเชื่อที่ 11 :

เข็มหัวอ่านใช้มอเตอร์ในการทำงาน ซึ่งการทำงานของมอเตอร์นี้
อาจล้มได้หากมีการใช้งานมากเกินไป

ข้อเท็จจริง : เข็มหัวอ่านในปัจจุบัน ไม่มีการใช้มอเตอร์ในการทำงานแต่อย่างใด ดังนั้น ก็ไม่มีมอเตอร์ที่จะล้มเหลวเมื่อมีการใช้งานมากเกินไ ป
สมัยก่อนนั้น เข็มหัวอ่านเคยใช้มอเตอร์เดินไปยังตำแหน่งที่ต้องการ แต่ปัจจุบัน เข็มหัวอ่านใช้ระบบ Voice Call Mechanism ซึ่งก็คือการใช้แรงแม่เหล็กไฟฟ้าในการเคลื่อนหัวอ่าน ไปตามตำแหน่งที่ต้องการ

ความเชื่อที่ 12 :

การจอดพักของหัวอ่าน ทำให้มอเตอร์เข็มหัวอ่านเสื่อมเร็ว

ข้อเท็จจริง : ก็เหมือนกับความเชื่อข้อที่ 11 นั่นคือไม่มีมอเตอร์ นอกจากนี้การจอดพักการทำงานของหัวอ่าน HDD. นั้นจะมีขึ้นโดยอัตโนมัติในกรณีที่กระแสไฟถูกตัด หรือ HDD. หยุดการทำงาน ดังนั้นการจอดพักนี้ ไม่ใช่กระบวนการที่มีการทำงานบ่อย หรือที่มีการทำงานอย่างต่อเนื่อง
เข็มหัวอ่านจะมีสปริงคอยควบคุมตำแหน่งของมัน เมื่อมีกระแสไฟเข็มหัวอ่านก็จะอยู่ในตำแหน่งที่มีการ ต้านแรงของสปริง และเมื่อไม่มีกระแสไฟ เข็มหัวอ่านก็จะถูกดันให้อยู่ในตำแหน่งจอดพัก ดังนั้น แม้ว่าเข็มหัวอ่านจะมีมอเตอร์ลี้ลับนี้จริง การจอดพักของเข็มหัวอ่านก็จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับก ารทำให้มอเตอร์ดังว่ามีการ
เสื่อมแต่อย่างใด

ความเชื่อที่ 13 :

ดิสก์จะมีการหมุนเร็วขึ้นเวลาที่มีการอ่านหรือเขียนข ้อมูลเท่านั้น
แต่จะหมุนลดลงเมื่อ HDD .ไม่มีกิจกรรม (idle)

ข้อเท็จจริง : แผ่นดิสก์ภายใน HDD. หรือที่เรียกว่า platter นั้นมีการหมุนในความเร็วระดับเดียวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการ อ่าน เขียน หรือ พัก (idle) ยกเว้นแต่เจ้าของเครื่องใช้คำสั่งให้มีการหมุนลดลงใน ช่วง idle เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน

ความเชื่อที่ 14 :

การหมุนลดลงจะทำให้ลดความเค้นที่มอเตอร์ขับเคลื่อนแผ ่นดิสก์ได้

ข้อเท็จจริง : โดยปกติแล้วแผ่นดิสก์จะเริ่มหมุนตอนเครื่อง startup และจะหมุนอยู่อย่างนั้นจน shutdown ในช่วงที่มีการหมุนอยู่นั้น ถือเป็นช่วงที่มีความเค้นสูงสุดต่อตัวมอเตอร์แล้ว ส่วนการรักษาความเร็วของการหมุนให้คงที่นั้น จะใช้กำลังน้อยลงมา
หากมีการใช้คำสั่งให้แผ่นดิสก์หมุนลดลงในช่วง idle นั้น ทุกครั้งที่มีการเขียน หรืออ่านไฟล์ใด ๆ ก็จะต้องมีการหมุนเพื่อให้เร็วขึ้นเพื่อให้ได้ความเร ็วปกติ ก่อนที่จะอ่านหรือเขียนได้ ดังนั้น ควรที่จะให้ดิสก์มีการหมุนที่ความเร็วคงที่ตลอด เพื่อลดความเค้นที่ตัวมอเตอร์

ความเชื่อที่ 15 :

การตัดกระแสไฟอย่างทันทีทันใดอาจทำให้เกิดเซ็กเตอร์เ สีย

ข้อเท็จจริง : เซ็กเตอร์เสีย หรือ bad sector นั้น ไม่ได้เกิดจากการปิดหรือการดับเครื่องอย่างทันทีทันใ ด แต่เมื่อสมัยก่อนนานมาแล้ว ก่อนปิดเครื่องทุกครั้ง ผู้ใช้จะต้องพักจอดหัวอ่าน HDD.ก่อนที่จะสามารถปิดเครื่องได้ แต่ปัจจุบัน ระบบหัวอ่านแบบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะทำการจอดพักตัวเองโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่กระแสไฟฟ ้าถูกตัดจากระบบ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่เกิดความเสี่ยงว่าจะเกิด bad sector จากกรณีการตัดกระแสไฟ

ความเชื่อที่ 16 :

เซ็กเตอร์เสียบางอัน เป็นเซ็กเตอร์เสียแบบเวอร์ชัวล์ (คือเป็นที่ซอฟต์แวร์ไม่ใช่ฮาร์ดแวร์)
และสามารถแก้ไขได้โดยการทำฟอร์แมต HDD.

ข้อเท็จจริง : เซ็กเตอร์เสียแบบเวอร์ชัวล์ไม่มีอยู่จริง เซ็กเตอร์ที่เสียนั้น คือเซ็กเตอร์(หรือช่องอันเป็นส่วนหนึ่งของดิสก์สำหรั บการเก็บข้อมูล) ที่ไม่สามารถทำการอ่านหรือเขียนได้ เนื่องจากมีการเสียหารทางกายภาพ เช่น ถูกทำลาย หรือทีการเสื่อมลง ดังนั้น จึงไม่สามารถซ่อมแซมด้วยกระบวนการทางด้านซอฟต์แวร์ได ้

ความเชื่อที่ 17 :

เซ็กเตอร์เสีย สามารถถูกลบได้โดยการฟอร์แมต HDD.

ข้อเท็จจริง : การฟอร์แมตในระดับต่ำ จะสามารถทดแทนเช็กเตอร์เสียด้วยเซ็กเตอร์ดีได้ โดยอาศัยพพื้นที่ว่างสำรองบน HDD. อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของ HDD. ก็จะลดลงเนื่องจากหัวอ่านจะต้องทำการค้นหาพื้นที่สำร องบน HDD.ด้วย อีกทั้งพื้นที่สำรองบน HDD.นั้นมีจำนวนจำกัด


สรุปแล้ว bad sector ก็คือ สัญญาณเตือนภัยอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงข้อบกพร่อ งบางอย่างของ HDD. แม้ bad sector นั้นจะเกิดจากการชนของหัวอ่าน (crash) เพียงครั้งเดียว แต่ซากที่เหลือจากการชนครั้งนั้น รวมทั้งหัวอ่านที่อาจได้รับความเสียหาย อาจนำมาซึ่งความเสียหายต่อไปในอนาคตได้ เช่น อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนแผ่นดิสก์เพิ่มมากขึ้น หรืออาจทำให้ความเร็วในการหมุน หรือการอ่านลดลง

ดังนั้น ถ้ามีข้อมูลที่สำคัญที่ต้องการเก็บรักษาไว้อย่างมั่น คง ควรหัดทำการแบ็คอัพข้อมูล และเปลี่ยน HDD.เมื่อพบว่ามีปัญหาบางอย่าง เช่น การค้นพบ bad sector เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่า HDD.จะสามารถทำงานได้ต่อไป และนานๆครั้งจะพบว่าเกิด bad sector เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั่นคือสัญญาณบอกว่า HDD. ของคุณมันใกล้ตายแล้วครับ

เครดิต นิตยสาร QuickPC ฉบับที่ 166
ขอขอบคุณ ภาพประกอบจาก
อินเทอร์เน็ต

search

search this site the web
search engine by freefind

ฝากไฟล์

YOUR IP