กาฬโรคปอด ข้อมูล โรคกาฬโรคปอด กาฬโรค โรคติดต่อ
กาฬโรคปอด
หลังจากมีข่าวว่า พบผู้เสียชีวิตด้วย โรคกาฬโรคปอด หรือ กาฬโรคปอด ที่เมืองซิเข่อตัน มณฑลชิงไห่ ประเทศจีน จนทางการท้องถิ่นต้องประกาศปิดเมืองซิเข่อตัน เพื่อฆ่าเชื้อ กาฬโรคปอด และป้องกัน กาฬโรคปอด ระบาด พร้อมกักบริเวณประชาชนไว้กว่า 1 หมื่นคน เพื่อดูอาการเนื่องจาก กาฬโรคปอด เป็นโรคที่อันตรายอย่างมาก เพราะเป็น 1 ใน 5 โรคติดต่อร้ายแรง (อหิวาห์ ไข้ทรพิษ กาฬโรค ไข้เหลือง และซาร์ส)
นอกจากนี้ ทางองค์การอนามัยโลก ยังได้ออกมาเตือนว่า กาฬโรคปอด ที่พบในจีนเป็นเชื้อชนิดเดียวกับ "กาฬโรคชนิดต่อมน้ำเหลืองอักเสบ" ที่เคยคร่าชีวิตชาวยุโรปมาแล้วกว่า 25 ล้านคน งานนี้จึงทำให้หลายคนอยากรู้จัก กาฬโรคปอด ว่าคือโรคอะไร มีอาการอย่างไร วันนี้กระปุกจึงเรื่องราวของ กาฬโรคปอด มาฝากกันค่ะ
กาฬโรค มีลักษณะอาการแบ่งได้ใหญ่ 3 ลักษณะ คือ กาฬโรคของต่อมน้ำเหลือง (Bubonic Plague), กาฬโรคชนิดโลหิตเป็นพิษ (Septicemic Plague) และ กาฬโรคปอด (Pneumonic Plague) ซึ่ง กาฬโรคปอด เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบซิลไล Yersinia pestis อาจเป็นอาการแทรกซ้อนของกาฬโรคต่อมน้ำเหลือง หรืออาจจะเป็นการติดเชื้อครั้งแรก
อาการของ กาฬโรคปอด
ผู้ป่วย กาฬโรคปอด จะมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดเมื่อยตัว หอบ เหนื่อยง่าย จากนั้นประมาณ 20-24 ชั่วโมง จะมีอาการทางปอดเริ่มขึ้น คือ ไอถี่ขึ้น เสมหะที่ตอนแรกจะมีลักษณะเหนียวใส จากนั้นจะกลายเป็นสีสนิม หรือแดงสด หากไม่รักษาจะเสียชีวิตภายใน 24-48 ชั่วโมง มักไม่มีปื้นแผลในปอด
การติดต่อของ กาฬโรคปอด
กาฬโรคปอด ถือเป็นกาฬโรคที่อันตรายที่สุด มีระยะฟักตัวประมาณ 2-3 วัน สามารถติดต่อได้ โดยมีหนูหรือหมัดหนูเป็นพาหะ หรือสัมผัสสิ่งของที่เพิ่งปนเปื้อนเชื้อโรคใหม่ๆ โดยเชื้อ กาฬโรคปอด สามารถแพร่กระจายทางอากาศ และสามารถติดต่อระหว่างคนได้ง่ายผ่านการไอ ซึ่งผู้ป่วยที่เป็น กาฬโรคปอด มีอัตราการเสียชีวิตถึงร้อยละ 60 หากไม่รีบรักษา สามารถเสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังติดเชื้อ แต่หากวินิจฉัยโรคได้เร็ว และได้รับยารักษาอย่างถูกต้อง จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้เกือบร้อยละ 15 แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละคน และปริมาณเชื้อที่ได้รับด้วย
การควบคุมการติดต่อของ กาฬโรคปอด
การจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของ กาฬโรคปอด ได้ ต้องคัดแยกผู้ป่วย กาฬโรคปอด และกักตัวผู้ป่วยอย่างเข้มงวด หรือหากพบผู้สงสัยว่าเป็น กาฬโรคปอด ให้แยกออกมากักตัวไว้ 7 วัน นอกจากนี้ยังต้องรายงานต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อจะได้รายงานต่อองค์การอนามัยโลก เนื่องจากองค์การอนามัยโลก ได้กำหนดให้ กาฬโรคปอด เป็นโรคที่ต้องรายงานตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ
ประวัติการแพร่ระบาดของกาฬโรคในอดีต
ในอดีต โรคกาฬโรค มีการระบาดครั้งใหญ่เกิดขึ้น 3 ครั้ง คือ
การระบาดของ ครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษ ที่ 3 เรียกการระบาดครั้งนั้นว่า Plague of justinian โดยเริ่มระบาดจากประเทศอียิปต์ไปสู่ทวีปยุโรป โดยเฉพาะที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล ทำให้มีคนเสียชีวิต ถึงวันละหมื่นคน และมีการระบาดติดต่อกันเป็นระยะเวลาประมาณ 50 ปี ทำให้มีคนเสียชีวิตหลายล้านคน
การระบาดครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในคริสต์ศวรรษที่ 14 เรียกการระบาดครั้งนั้นว่า The Black Death (กาฬมรณะ) โดยการระบาดเริ่มต้นจากทางตอนใต้ของประเทศอินเดียและจีน ผ่านประเทศอียิปต์เข้าสู่ประเทศยุโรป จนมีการระบาดในอิตาลี เมื่อปี พ.ศ.1889 เรียกการระบาดครั้งนั้นว่า "Great Mortality" และมีการระบาดเป็นระยะ ตลอดคริสต์วรรษที่ 15, 16, 17 ก่อนที่ในปี พ.ศ.2208 จะเกิดการระบาดใหญ่ที่กรุงลอนดอน ทำให้มีคนตายเป็นจำนวนกว่า 60,000 คน จากประชากร 450,000 คน เรียกการระบาดครั้งนั้นว่า The Great Plague of London การระบาดในยุโรปครั้งนั้น ส่งผลให้มีประชากรประมาณ 25 ล้านคน ต้องตายด้วยโรคนี้
การระบาดครั้งที่ 3 เป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลกปี พ.ศ.2439 โดยมีการระบาดเข้าสู่สิงค์โปร์ ไทย ฟิลิปปินส์ ฮาไวอี อารเบีย เปอร์เชีย เตอร์กี อียิปต์ และแอฟริกาตะวันตกเข้ารัสเชีย และในทวีปยุโรป ก่อนเข้าสู่อเมริกาเหนือและเม็กซิโก โดยมีรายงานระหว่างปี พ.ศ.2443-2444 ว่า กาฬโรคได้คร่าชีวิตคนในภาคตะวันออกของจีน ประมาณ 60,000 คน และในปี พ.ศ.2453-2454 ที่แมนจูเรีย มีคนเสียชีวิตประมาณ 10,000 คน จากนั้น ต่อมายังมีรายงานการระบาดของ กาฬโรคปอด ที่รัฐแคลิฟอเนียและประเทศรัสเซียอีกด้วย
การระบาดของกาฬโรคในประเทศไทย
สำหรับการระบาดของกาฬโรคในประเทศไทยนั้น นายแพทย์ เอช แคมเบล ไฮเอ็ด เจ้ากรมแพทย์สุขาภิบาล (Principal Medical Officer of Bangkok City) ได้รายงานการระบาดของกาฬโรคครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2447 ที่บริเวณตึกแดงและตึกขาว ซึ่งเป็นโกดังเก็บสินค้า ในจังหวัดธนบุรี และเป็นที่อยู่ของพ่อค้าชาวอินเดีย ก่อนที่จะระบาดมายังฝั่งพระนคร และกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ ที่มีการติดต่อค้าขายกับกรุงเทพฯ โดยทางบก ทางเรือและทางรถไฟ แต่ครั้งนั้นไม่ได้เก็บสถิติจำนวนผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตที่แน่นอน
จากนั้น ในปี พ.ศ.2456 ได้มีรายงานปรากฏว่า กาฬโรคได้คร่าชีวิตชาวนครปฐมไป 300 คน ก่อนที่จะมีการระบาดอีกครั้ง และเป็นครั้งสุดท้าย ในปี พ.ศ.2495 ซึ่งครั้งนั้น มีรายงานพบผู้ป่วยกาฬโรค 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย ที่ตลาดตาคลี จนถึงปัจจุบันผ่านมา 57 ปีแล้ว ยังไม่มีรายงานว่ามีการแพร่ระบาดของ กาฬโรคปอด ในประเทศไทย
การรักษา กาฬโรคปอด
กาฬโรคปอด สามารถรักษาได้ด้วยการทานยาปฏิชีวนะ เช่น สเตรปโตมัยซิน ( streptomycin), เตตระซัยคลิน (tetracycline) หรือ คลอแรมเฟนิคอล (chloramphenicol) เป็นเวลา 7 วัน
การป้องกันการแพร่ระบาดของ กาฬโรคปอด
1.สำรวจหนูและหมัดหนู โดยการควบคุมและกำจัดหนูในโรงเรือน และเรือสินค้ากำจัดหมัดหนูโดยใช้ยาฆ่าแมลง และป้องกันไม่ให้มีหนูมากัด
2.อย่าไปสัมผัสกับสัตว์กัดแทะที่ป่วยตาย เช่น หนู กระรอก ถ้าจะจับไปทิ้งต้องสวมถุงมือ
3.ให้คำแนะนำเรื่องสุขศึกษาให้กับประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้รู้วิธีป้องกันโรค กาฬโรคปอด และหากมีอาการสงสัยว่า ป่วยเป็น กาฬโรคปอด ให้เข้ารับการตรวจรักษาโดยเร็ว
4.มีมาตรการควบคุมระหว่างประเทศ
5.ปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของคนในชุมชนแออัด และทำความสะอาดชุมชนแออัดให้ดีขึ้น
6.ผู้ที่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วย กาฬโรคปอด ควรกินยาเตตระซัยคลินสำหรับป้องกัน และใช้ถุงมือ ผ้าปิดปากและจมูก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ กาฬโรคปอด
7.ให้วัคซีนแก่ผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรค ซึ่งจะช่วยลดอัตราป่วยด้วยโรคนี้ได้มาก
อย่างไรก็ตาม แม้ข่าวการระบาดของ กาฬโรคปอด จะดูไกลตัวสำหรับชาวไทย แต่เราก็ไม่ควรประมาท เพราะ โรคกาฬโรคปอด สามารถติดต่อได้โดยการแพร่กระจายทางอากาศ ดังนั้นป้องกันตัวเองไว้ดีที่สุดค่ะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กาฬโรคปอด ระบาดจีนผวาหนัก (เดลินิวส์)
ดับแล้ว 3 สั่งปิดเมืองป่วยอีก 10 รายที่มณฑลชิงไห่ รับเชื้อร้ายถึงตายได้ใน 24 ชั่วโมง ยุโรปเคยเสียชีวิต 25 ล้านคน
รัฐบาลจีนสั่งปิดทั้งเมืองเพื่อกักกันโรค และป้องกันการแพร่ระบาดของ โรคกาฬโรคปอด ซึ่งคร่าชีวิตผู้ป่วยไปแล้ว 3 ศพ แถมยังติดเชื้ออีก 10 คน ในเมืองจื่อเคอถาน มณฑลชิงไห่ ขณะที่องค์การอนามัยโลกก็ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสาธารณสุขแดนมังกร ระบุเป็นเชื้อแบคทีเรียตัวเดียวกับกาฬโรคชนิดต่อมน้ำเหลืองอักเสบที่ทำคนตายมาแล้วในยุโรปถึง 25 ล้านคน เผยติดเชื้อตายได้ใน 24 ชั่วโมง
"วิทยา" เตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนก กาฬโรคปอด ด้านอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุ โรคนี้เกิดจากสัตว์ กลุ่มฟันแทะ ระบาดง่ายแพร่สู่คนได้ทางอากาศ
สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงปักกิ่งประเทศ จีนเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ว่า สำนักข่าวซินหัวของรัฐบาลจีนรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตรายที่ 2 เป็นชายวัย 37 ปี ชื่อนายตันซิน อาศัยอยู่ที่เมืองจื่อเคอถาน ในมณฑลชิงไห่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน เสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วย โรคกาฬโรคปอด ซึ่งกำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยนายตันซิน นั้นเป็นเพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นชายวัย 32 ปี ไม่ระบุชื่อ ยึดอาชีพเลี้ยงสัตว์ เป็นผู้ติดเชื้อรายแรก จึงเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่อกักกันโรคแต่ก็เสียชีวิตในที่สุด นอกจากนั้นก็ยังมีผู้ติดเชื้ออีก 10 คน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นญาติผู้เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตรายแรก
และล่าสุดผู้เสียชีวิตรายที่ 3 เป็นชายวัย 64 ปี เสียชีวิตลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อาศัยอยู่ในเมืองจื่อเคอถาน จังหวัดซิงไห่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
ตามรายงานระบุว่า พบการระบาดของโรค ตั้งแต่ วันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชน 9 รายล้มป่วยลง และพบผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นชายวัย 32 ปี และ รายที่สองเป็นชายเช่นกันอายุ 37 ปี และล่าสุด รายที่สามเป็นชายวัย 64 ปี เสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ป้องกันการแพร่กระจายออกนอกพื้นที่แล้ว
สำหรับเมืองจื่อเคอถาน เป็นเขตที่อยู่อาศัยของชนกลุ่มน้อยชาวทิเบต มีประชากรอยู่ราว 10,000 คน ดังนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขของจีนจึงได้มีคำสั่งให้ปิดเมืองจื่อเคอถาน และพื้นที่ใกล้เคียง ห้ามติดต่อกับโลกภายนอกอย่างเด็ดขาด พร้อมกันนั้นก็ได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ โดยมีคำสั่งประกาศเตือนว่า หากผู้ใดมีอาการไอหรือไข้ขึ้นสูงหลังจากที่เข้าไปที่เมืองนี้ นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม เป็นต้นมา ขอให้มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยด่วน
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานองค์การอนามัย โลกประจำประเทศจีน ระบุว่า ได้ประสานงาน อย่างใกล้ชิดกับทางสำนักงานสาธารณสุขของจีนเรื่องมาตรการที่นำมาใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และการกักกันโรค ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า น.ส.วิเวียน ตัน โฆษกองค์การอนามัยโลกประจำกรุงปักกิ่งแถลงว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะมีการตรวจพบเป็นระยะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราจึงไม่แปลกใจที่พบโรคนี้ เรากำลังประสานกับทางการจีนเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถควบคุมได้ โรคกาฬโรคปอด เกิดขึ้นในพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลของประเทศ ดังนั้นจึงน่าจะช่วยทุเลาความรุนแรงลงได้บ้าง
ด้านชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ ชื่อนายฮั่นเป็นคนขายอาหารตามแผงในตลาดคริสตัล แอลลีเมืองจื่อเคอถาน กล่าวว่าทางการได้ประกาศให้ร้านค้าและบ้านเรือนจัดการทำความสะอาด และประชาชนควรสวมหน้ากากหากออกนอกพื้นที่ ขณะนี้ร้อยละ 80 ของเมืองปิดกิจการชั่วคราว และราคาสินค้าประเภทยาฆ่าเชื้อโรคและพืชผักมีราคาสูงเป็น 3 เท่าจากปกติ ส่วนเจ้าหน้าที่ของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อในเมืองจื่อเคอถาน บอกว่า มาตรการปิดเมืองนี้เป็นระเบียบปฏิบัติที่มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย และเหตุผลด้านวิทยาศาสตร์
สำหรับ โรคกาฬโรคปอด นั้น สามารถแพร่ กระจายไปในอากาศ ทำให้เชื้อแพร่ระบาดได้ง่ายจากคนสู่คนโดยเฉพาะจากผู้ป่วยที่มีอาการไอ ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก ซึ่งเกิดขึ้นจากเชื้อแบคทีเรียตัวเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับกาฬโรคชนิดต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ซึ่งเคยคร่าชีวิตผู้ป่วยถึง 25 ล้านคนในทวีปยุโรปในยุคกลาง โดยกาฬโรคชนิดต่อมน้ำเหลืองอักเสบ เกิดจากสัตว์ประเภท เห็บ หมัด เป็นพาหะนำโรค สามารถรักษาได้โดยการให้ยาปฏิชีวนะหากพบอาการติดเชื้อตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตาม กาฬโรคปอด เป็นโรคติดเชื้อชนิดร้ายแรงอีกโรคหนึ่งตามรายงานขององค์การอนามัยโลกว่า ผู้ติดเชื้ออาจเสียชีวิตได้ใน 24 ชั่วโมง
นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการแพร่ระบาดของ กาฬโรคปอด ในชนกลุ่มน้อยทิเบต สาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ไม่อยากให้ตื่นตระหนก เพราะเป็นการแพร่ระบาดในหมู่คนจำนวนน้อย ยังไม่ลุกลามข้ามประเทศ อย่างไรก็ตามได้สั่งให้กรมควบคุมโรค และสำนักระบาดวิทยา เฝ้าติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เนื่องจากโรคนี้ห่างหายจากประเทศไทยไปนานนับ 10 ปี และต่างจากกาฬโรคทั่วไป ที่จะทำให้ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ แต่ กาฬโรคปอด เชื้อจะลงปอดทำให้ปอดอักเสบเฉียบพลัน ขอเตือนคนไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือทำงานให้ระวังตัวเองงดเว้นเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง แต่คงไม่ถึงขั้นสั่งห้ามเดินทางไปประเทศจีน เพราะจีน เป็นประเทศใหญ่ มีหลายมณฑล
นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กาฬโรคปอด เป็นโรคติดต่อร้ายแรง แพร่เชื้อจากคนสู่คนด้วยการไอ จาม เชื้อจะลงไปทำลายปอด ทำให้การหายใจ ล้มเหลว สาเหตุการเสียชีวิต โรคนี้เกิดจากสัตว์ กลุ่มฟันแทะ ทั้งหนู แมว เห็บ หมัด และแพร่สู่คน แพร่กระจายได้ทางอากาศ ระบาดได้ง่ายโดยทั่วไปองค์การอนามัยโลกจะเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด และประกาศปิดพื้นที่ระบาด ห้ามเคลื่อนย้ายคนหรือสัตว์ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สำหรับประเทศไทยได้สั่งการให้ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นจุดใหญ่ของการเดินทางระหว่างประเทศ
ข่าว โรคกาฬโรคปอด รู้ทันภัย โรค กาฬโรคปอด Part.1/2
ข่าว โรคกาฬโรคปอด รู้ทันภัย โรค กาฬโรคปอด Part.2/2
ขอขอบคุณข้อมูลจาก กระปุกดอทคอม
- สำนักโรคติดต่อทั่วไป
- technoinhome.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น