UFO กับ มนุษย์ต่างดาวบุกไทยจริงหรือ???
UFO กับ มนุษย์ต่างดาวบุกไทยจริงหรือ???
UFO???
ภาพวัตถุประหลาด ที่ตกลงมาสู่บรรยากาศของโลกเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2549 เวลาประมาณ 18.20 น. ชาวบ้านที่พบเห็นต่างบอกว่าน่าจะเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว หรือ UFO โดย นายมรกต อารียะ ประธานศูนย์ศึกษาดาราศาสตร์อุตรดิตถ์และหอดูดาวอารียะ เห็นขณะที่วัตถุดังกล่าวตกลงมาสู่บรรยากาศของโลกและเกิดเปลวไฟลุกไหม้เป็นทางยาวคล้ายกับยานอวกาศกลับสู่โลก จึงใช้กล้องดิจิตอลฟูจิ รุ่น F10 ถ่ายภาพที่เห็นไว้ได้ในทันทีที่ตกลงมาจากท้องฟ้า ณ ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในวันดังกล่าวนายมรกต อารียะกลับจากการประชุมที่บ้านมนังคศิลา กรุงเทพฯ และกล้องยังอยู่กับตัว จึงได้ภาพที่แปลกมาศึกษาวิเคราะห์เพื่อหารายละเอียดและข้อเท็จจริงเนื่องจากได้สอบถามนักวิทยุสมัครเล่นในพื้นที่พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และจังหวัดใกล้เคียงรวมทั้งได้สอบถามเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีรายงานว่ามีเหตุการณ์เครื่องบินตกแต่อย่างใด
อ.วรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต ผอ. หอดูดาวบัณฑิต และกรรมการสมาคมดาราศาสตร์ เห็นภาพนี้แล้วก็พยายามจะหาคำอธิบายเพื่อเป็นคำตอบ แต่ก็ยังไม่ยืนยันว่าเป็นภาพที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร และได้ส่งภาพนี้ให้ ดร ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ช่วยตรวจสอบ โดยในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นปรากฏการณ์แสงสะท้อนจากแผงโซล่าเซลล์ของดาวเทียมเออริเดียม แต่ต่อมาบอกว่าอาจจะไม่ใช่เพราะไม่ตรงกับข้อมูลที่มีอยู่ แต่อีกสมมุติฐานหนึ่งที่รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติบอกว่าน่าจะเป็นไปได้มากก็คืออาจเป็นขยะอวกาศที่ตกลงมายังชั้นบรรยากาศของโลก จึงเกิดไฟลุกไหม้ทำให้แลเห็นเป็นทางยาวขึ้นไปในท้องฟ้า
อย่างไรก็ตามวัตถุดังกล่าวเมื่อตกลงมาสู่บรรยากาศของโลกในแนวดิ่งเฉียงเล็กน้อยและมีเปลวไฟพุ่งขึ้นเหนือวัตถุเป็นทางยาว แต่ก็ไม่ได้ดิ่งลงสู่พื้นโลกเหมือนกับอุกาบาตแต่อย่างใด กลับวิ่งอยู่ในชั้นบรรยากาศอย่างช้าๆ ขนานกับพื้นผิวโลกไปทางทิศตะวันตก และแลเห็นเป็นลูกไฟดวงโต ก่อนลับสายตาไปกับขอบฟ้า ซึ่งกล้องฟูจิ รุ่น F10 ไม่สามารถจับภาพได้
มะนาวต่างดุด (มนุษย์ต่างดาว)???
ในต่างประเทศ แบ่งมนุษย์ต่างดาวเป็น 6 กลุ่มตามรูปร่างลักษณะคือ
1.เหมือนมนุษย์
2.คล้ายมนุษย์แต่ผิวหนังเป็นสีเทา
3.คล้ายสัตว์
4.คล้ายหุ่นยนต์
5.รูปร่างประหลาด
6.คล้ายผี
นี่คือลักษณะคร่าว ๆ ของสิ่งที่เชื่อว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว ที่มีคนอ้างว่าพบเห็นในเมืองไทยล่าสุด ที่ทุ่งนาพื้นที่บ้านห้วยน้ำราก หมู่ 5 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย เมื่อเช้าวันที่ 3 ก.ย. 2548 หลังจากที่คืนวันที่ 2 ก.ย. มีการกล่าวอ้างว่าพบเห็นลูกไฟลึกลับตกพุ่งลงมาจากฟ้าในบริเวณดังกล่าว ไม่ใช่แค่คนเดียวที่อ้างว่าเห็นแต่เป็นสิบคน ไม่ใช่การอ้างว่าเห็นในระยะไกลแต่ใกล้แค่ประมาณ 10 เมตร และไม่ใช่อ้างว่าเห็นแค่บนพื้นดินแวบเดียวแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอยแต่เห็นวนเวียนในท้องนาเหมือนหาอะไรอยู่เป็นชั่วโมง ก่อนจะค่อย ๆ ลอยตัวสูงขึ้นจากพื้นดินไปอยู่เหนือยอดไม้สูงประมาณ 10 เมตร จากนั้นก็หยุดแล้วหันหน้ามองลงมายังกลุ่มคนที่อ้างว่าเห็น ก่อนจะพุ่งลิ่วขึ้นสู่ท้องฟ้าหายลับตาไป
เรื่องราวเกี่ยวกับ “มนุษย์ต่างดาว” นั้น เป็นเรื่องชวนให้สนใจของผู้คนทั่วโลกรวมถึงคนไทยจำนวนไม่น้อย ซึ่งในเมืองไทยเราก็มีบุคคลระดับ “นักวิชาการ” ให้ความสนใจ และบางคนก็ระบุว่า “เคยเห็น” หรือเคยติด ต่อกับมนุษย์ต่างดาวทาง “จิต” หรือจากการฝึกทำ “สมาธิ”
เมื่อเดือน มิ.ย. ปี 2540 เคยมีการจัดสัมมนาเรื่อง “มนุษย์ต่างดาว” ซึ่งเป็นครั้งแรกในเมืองไทย และในการสัมมนาถึงกับมีการระบุว่ามนุษย์ต่างดาวจะ “บุกโลก” ในอีก 25 ปี หรือในปี 2565 โดยมีการวางแผนแบ่งกำลังกันบุกเป็นโซน ๆ ของโลก ทั้งแถบทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป และรวมถึงทวีปเอเชีย
นักวิชาการอีกคนหนึ่งซึ่งให้ความสนใจเรื่อง “มนุษย์ต่างดาว” มาก คือ ศ.ดร.น.พ.เทพนม เมืองแมน ประธานอำนวยการฝ่ายสถาบันวิทยา ศาสตร์ทางจิต ซึ่ง ศ.ดร.เทพนมได้เคยระบุไว้ว่าเคยติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวทาง “โทรจิต” หรือการทำสมาธิหลายครั้ง และว่าในต่างประเทศก็มีการทำกันอยู่
ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ ครั้งที่ 9 เมื่อปลายปี 2547 ศ.ดร.เทพนมระบุไว้ว่า เคยได้รับการติดต่อจากมนุษย์ต่างดาวว่าเคยมาที่เมืองไทยตั้งแต่เมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว และพบหลักฐานปรากฏอยู่ในถ้ำบนยอดเขาที่ จ.กาญจนบุรี เป็นภาพที่วาดโดยมนุษย์ถ้ำ ประมาณ 100 กว่าภาพ เป็นภาพ “มนุษย์ต่างดาวตากลมโต” ซึ่งทางกรมศิลปากรเอาหินในถ้ำไปตรวจก็พบว่ามีอายุประมาณ 5,000 ปี
ที่ จ.เชียงใหม่ ก็มีการระบุว่าจานบินของมนุษย์ต่างดาวเคยมาตกเมื่อต้นปี 2541 ถึงขั้นสหรัฐส่งทีมมาสำรวจแต่ไม่พบ อย่างไรก็ตาม ศ.ดร. เทพนมบอกไว้ว่าได้ไปลองหาจนเจออยู่ในเขตป่าสงวนฯ ! ไม่เท่านั้นยังมีการระบุว่าตอนที่ทางนาซามาประชุมในไทยที่มหาวิทยาลัยฯสุรนารี จ.นครราชสีมา ครั้งนั้นก็มีจานบินมาปรากฏ ซึ่งถ้าเป็นเช่นที่ว่ามาจริง ๆ ก็หมายถึง “มนุษย์ต่างดาว” มาเมืองไทยบ่อย!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://learners.in.th/blog/siriwan186/38775
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น