เพื่อการแสดงผลหน้าเว็ป SPVARIETY ที่ถูกต้องท่านควรใช้ IE8 Firefox & Google Chrome

Download Browsing Click Here

This page is optimized for IE8 Firefox & Google Chrome

ของใช้สาธารณะ โรคใกล้ตัว สุขอนามัยที่ไม่ควรมองข้าม

|

ของใช้สาธารณะ โรคใกล้ตัว สุขอนามัยที่ไม่ควรมองข้าม

ด้วยภาวะสังคมขณะนี้ที่สลับซับซ้อนทั้งชีวิตและความเป็นอยู่ของมนุษย์ จึงเกิดการพัฒนาต่างๆ มากมาย ไม่ต่างจากเชื้อโรคที่วันนี้ได้คืบคลานเข้าใกล้มนุษย์เพียงแค่เอื้อมมือหรือปลายจมูก ยิ่งในบางสถานการณ์บังคับให้ต้องใช้สิ่งของสาธารณะ ที่เป็นส่วนรวม ซึ่งอาจไม่มีความสะอาดเพียงพอยังผลให้ติดเชื้อก่อให้เกิดโรคภัยต่างๆ กับผู้ใช้ได้

ทางกลับกันเมื่อเชื้อโรคก่อให้เกิดโรคร้ายอยู่รอบตัวก็ย่อมมีทางป้องกันได้เช่นกัน โดยเฉพาะของใช้ที่ตอบสนองความสะดวกสบาย เช่น เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ, หมวกกันน็อก, ห้องน้ำสาธารณะ สิ่งเหล่านี้เชื่อว่าหลายคนอาจใช้อยู่เป็นประจำโดยไม่ได้สังเกตถึงภัยร้าย.... แต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนก...! ทุกอย่างมีทางแก้

ส่วนใหญ่ผิวหนัง คือ ปราการด่านแรกของมนุษย์เมื่อเจอกับเชื้อโรค ซึ่ง พญ.พู่กลิ่น ตรีสุโกศล หัวหน้ากลุ่มงานผื่นแพ้สัมผัสและอาชีวเวชศาสตร์ สถาบันโรคผิวหนัง จะเป็นผู้ไขความลับถึงโรคที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อใช้สิ่งของสาธารณะไม่สะอาด

พญ.พู่กลิ่น กล่าวว่า ตอนนี้มีเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกมากมาย บางครั้งสิ่งที่อำนวยความสะดวกเหล่านี้เมื่อไม่ได้รับการดูแลให้มีความสะอาดจะส่งผลร้ายกับผู้บริโภคได้ ซึ่งโรคทางผิวหนังอาจไม่มีความรุนแรงมากแต่หากปล่อยไว้นานอาจลุกลามไปยังผิวหนังส่วนอื่นๆ ได้

เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เกือบทุกพื้นที่ในประเทศมีการให้บริการอย่างคึกคัก แต่หากไม่มีการดูแลทำความสะอาดอยู่สม่ำเสมอจะทำให้ผู้ใช้เกิดการระคายเคืองได้ เช่น ช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มมีคราบเชื้อรา เนื่องจากเมื่อใช้ไปนานๆ อาจเกิดการปนเปื้อนในผ้าที่ซัก ทำให้เกิดเชื้อราบนผิวหนังเมื่อใส่เสื้อผ้าที่ตากไม่แห้ง หรือหูด เกิดจากคนที่ใช้ก่อนหน้านำผ้ามาซักแล้วคนมาใช้ทีหลังตากเสื้อผ้าเหล่านั้นไม่แห้งแล้วนำมาใส่

"อาการของเชื้อราจะทำให้ผิวหนังส่วนที่ติดเชื้อเป็นผื่น และมีอาการคัน ส่วนหูดจะขึ้นเป็นวงบนผิวหนังไม่มีอาการเจ็บหรือคัน แต่หากปล่อยไว้อาจลุกลามไปตามผิวหนังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งเมื่อเกิดโรคเหล่านี้ขึ้นผู้ป่วยควรรีบไปพบแพทย์เพื่อไม่ให้อาการลุกลาม" พญ.พู่กลิ่น แนะนำ

ดังนั้นผู้บริโภคที่ใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญควรสังเกตภายในตัวถังเครื่องว่ามีขี้โคลนหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆ หลงเหลืออยู่หรือไม่ ขณะเดียวกันก็ต้องดมดูกลิ่นภายในตัว ถังว่ามีความอับชื้นมากเกินไปหรือเปล่า เพราะหากมีความชื้น มากๆ อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ ตลอดจนควรตรวจ สอบช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยา ปรับผ้านุ่มไม่ให้มีคราบเชื้อรา ที่มีลักษณะดำๆ เกาะบริเวณภาชนะ

"เครื่องซักผ้าตามบ้านเรือนก็อาจมีลักษณะที่ไม่เหมาะสมได้ หากเจ้าของไม่มีการทำความสะอาด"

ด้วยกฎระเบียบจราจรที่มีความเข้มงวดในปัจจุบัน หมวกกันน็อกจึงมีส่วนช่วยป้องกันอันตราย ซึ่งหลายคนคงได้ใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ต้องสวมหมวกกันน็อกที่เป็นเสมือนของสาธารณะ พญ.พู่ กลิ่น กล่าวว่า หมวกกันน็อกที่ไม่รักษาความสะอาดทำให้ผู้ที่ใช้ต่อเกิดการติดเหาได้ เนื่องจากผู้ที่ใช้มาก่อนมีเหาอยู่แล้ว ขณะเดียวกันหมวกกันน็อกที่มีความชื้นก็จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ซึ่งเอื้ออำนวยต่อการอยู่อาศัย นอกจากนี้หากมีความชื้นมากๆ จะทำให้ผู้ใช้ติดโรคเชื้อราบนหนังศีรษะ

อาการเมื่อเกิดการติดเชื้อบนหนังศีรษะจะรู้สึกคันและมีผื่นแดงขึ้นบนหนังศีรษะ เมื่อผู้ป่วยเกิดอาการเหล่านี้หนักขึ้นควรไปพบแพทย์ทันที

แนวทางป้องกันคือ ก่อนจะสวมหมวกควรตรวจดูว่ามีไข่เหาที่มีลักษณะก้อนเล็กๆ สีขาวหรือไม่ ขณะเดียวกันก็ใช้มือสัมผัสภายในหมวกว่า มีความชื้นมากเกินไปหรือเปล่า และควรมีการดมภายในหมวกไม่ให้มีกลิ่นเหม็นมากเกินไป หรือผู้ที่โดยสารรถมอเตอร์ไซค์อยู่เป็นประจำอาจเตรียมหมวกกันน็อกของตัวเองก็เป็นการช่วยได้เช่นกัน

ส่วนผู้ประกอบการเองควรจะดูแลทำความสะอาดโดยหงายภายในหมวกกันน็อกตากแดดอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ควรทำความสะอาดโดยใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดบริเวณยางและเชือกที่รัดหมวกกันน็อก

นอกจากนี้การใช้ส้วมสาธารณะ ยังคงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายได้จากการที่ผู้ใช้ไม่ล้างมือให้สะอาดแล้วไปจับกลอนประตู, ก๊อกน้ำ และสุขภัณฑ์ต่างๆ แล้วไปจับอาหารกินทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้

ขณะเดียวกันตอนนี้หลายคนใช้ห้องน้ำสาธารณะแบบมีชักโครกผิดวิธี โดยใส่รองเท้าที่เปื้อนดินขึ้นไปนั่งบนฝารองนั่งทำให้ผู้ที่มาใช้ต่อไม่สามารถใช้ต่อได้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่มาใช้ต่อเกิดโรคติดเชื้อราในดินได้ เนื่องจากในดินมีเชื้อราต่างๆ ทำให้ผู้ที่มาใช้ชักโครกที่เปื้อนอาจเกิดอาการติดเชื้อได้หากมีรอยบาดแผล ทำให้เกิดเป็นผดผื่นคัน ซึ่งเมื่อเกิดอาการเหล่านี้ผู้ป่วยควรพบแพทย์ทันที

"ผู้หญิงมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคจากการใช้ห้องน้ำสาธารณะมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากต้องใช้ชักโครก ตอนนี้มีบริการกระดาษรองนั่งบนฝาชักโครกโดยจะเป็นอีกตัวช่วยได้ ซึ่งแผ่นกระดาษรองนั่งไม่ควรเปียกน้ำ"

แนวทางป้องกันเชื้อโรคที่แฝงอยู่ในห้องน้ำสาธารณะ ควรตรวจดูฝารองนั่งชักโครกก่อนทุกครั้งว่ามีความสะอาดหรือไม่ ขณะเดียวกันหลังเข้าห้องน้ำเสร็จควรล้างมือให้สะอาดทั้งหน้ามือ หลังมือ และตามซอกนิ้ว พญ.พู่กลิ่น ทิ้งท้ายว่า การใช้สิ่งของสาธารณะนอกจากจะคำนึงถึงสุขลักษณะของตัวเองแล้ว ควรคำนึงถึงความสะอาดสำหรับผู้ที่มาใช้ต่อด้วย เนื่องจากตอนนี้เชื้อโรคต่างๆ มีการพัฒนาสายพันธุ์มากมาย ที่ไม่แน่อนาคตอาจส่งผลร้ายได้

ดังนั้น เมื่อทุกคนรู้เท่าทันโรคที่อาจจะเกิดขึ้น ย่อมนำไปสู่สังคมที่มีสุขอนามัยที่ดี

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์

0 ความคิดเห็น:

search

search this site the web
search engine by freefind

ฝากไฟล์

YOUR IP