วิธีการป้องกันตัวจาก ไข้หวัด2009 แบบง่ายๆ โดยหมอแมว
เชิญชมวิธีการป้องกันตัวจากไข้หวัด2009 แบบบ้านๆ กันครับ By หมอแมว (Pantip)
รอมาตั้งสัปดาห์...วิทยุ โทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ ยังไม่เห็นบอกวิธีป้องกันตัวแบบชัดๆ เลย งั้นผม (หมอแมว) ขอทำหน้าที่แทนสื่อวิทยุ-โทรทัศน์แล้วกันครับ
ครั้งที่แล้วเราได้คุยเรื่องไข้หวัด 2009 ไปแล้ว ว่ามันไม่ได้น่ากลัวขนาดที่เราต้องตื่นตระหนกกัน แต่ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ควรประมาท เพราะว่าในอนาคตอันใกล้นี้อาจจะเกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่ตัวอื่นที่รุนแรงกว่าตัวนี้ได้ และยังรวมไปถึงเรื่องโรคติดต่อทางเดินหายใจโรคอื่นๆ ที่ระบาดกันทุกๆ ปี ตามพื้นที่ต่างๆ อันมีส่วนมาจากการที่คนส่วนมากไม่ใส่หน้ากากอนามัยเวลาป่วย และไม่ค่อยล้างมือ ดังนั้น วันนี้ผมขอนำเสนอเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เกี่ยวกับการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ที่จะช่วยให้คุณและสังคมรอบข้างรอดพ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรคครับ
การแพร่เชื้อทางอากาศเกิดขึ้นได้ยังไง
เวลาเราหายใจ พูด ไอ หรือจาม จะมีละอองฝอยของหยดน้ำลอยออกมาจากร่างกายของเราครับ (Droplets) หยดน้ำเล็กเหล่านี้สามารถลอยฟุ้งไปในอากาศได้ และในระหว่างที่มันยังไม่ระเหยไป เชื้อโรคที่อยู่ในนั้นก็ยังสามารถแพร่ไปยังคนรอบข้างได้อยู่ ซึ่งระยะอันตรายคือ 1 เมตร ส่วนระยะสำหรับการจามอาจจะไกลถึง 3 เมตร ดังนั้น ถ้าอยู่ในกรุงเทพมหานครก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยครับ ที่เราจะหลีกเลี่ยงละอองเหล่านี้ หากมันลอยออกมาจากปากของคนที่ป่วยแล้ว
รอมาตั้งสัปดาห์...วิทยุ โทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ ยังไม่เห็นบอกวิธีป้องกันตัวแบบชัดๆ เลย งั้นผม (หมอแมว) ขอทำหน้าที่แทนสื่อวิทยุ-โทรทัศน์แล้วกันครับ
ครั้งที่แล้วเราได้คุยเรื่องไข้หวัด 2009 ไปแล้ว ว่ามันไม่ได้น่ากลัวขนาดที่เราต้องตื่นตระหนกกัน แต่ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ควรประมาท เพราะว่าในอนาคตอันใกล้นี้อาจจะเกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่ตัวอื่นที่รุนแรงกว่าตัวนี้ได้ และยังรวมไปถึงเรื่องโรคติดต่อทางเดินหายใจโรคอื่นๆ ที่ระบาดกันทุกๆ ปี ตามพื้นที่ต่างๆ อันมีส่วนมาจากการที่คนส่วนมากไม่ใส่หน้ากากอนามัยเวลาป่วย และไม่ค่อยล้างมือ ดังนั้น วันนี้ผมขอนำเสนอเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เกี่ยวกับการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ที่จะช่วยให้คุณและสังคมรอบข้างรอดพ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรคครับ
การแพร่เชื้อทางอากาศเกิดขึ้นได้ยังไง
เวลาเราหายใจ พูด ไอ หรือจาม จะมีละอองฝอยของหยดน้ำลอยออกมาจากร่างกายของเราครับ (Droplets) หยดน้ำเล็กเหล่านี้สามารถลอยฟุ้งไปในอากาศได้ และในระหว่างที่มันยังไม่ระเหยไป เชื้อโรคที่อยู่ในนั้นก็ยังสามารถแพร่ไปยังคนรอบข้างได้อยู่ ซึ่งระยะอันตรายคือ 1 เมตร ส่วนระยะสำหรับการจามอาจจะไกลถึง 3 เมตร ดังนั้น ถ้าอยู่ในกรุงเทพมหานครก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยครับ ที่เราจะหลีกเลี่ยงละอองเหล่านี้ หากมันลอยออกมาจากปากของคนที่ป่วยแล้ว
ถ้าไม่มีหน้ากากล่ะ ทำอย่างไร
ถ้าไม่มีหน้ากากให้จามใส่ทิชชู่ครับ จากนั้นก็ทิ้ง แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ก็ควรจะใช้อะไรมาบังปากไว้ แต่ปัญหาคือถ้าเราใช้มือ พอเราเดินไปก็จะเอาน้ำลายไปป้ายที่อื่นๆ ได้ ดังนั้น จึงขอแนะนำว่าเวลาไอ จาม ให้ไอ จาม ใส่ข้อพับแขน
เป็นคำแนะนำที่กองควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกาแนะนำกันครับ
ถ้าไม่มีหน้ากากให้จามใส่ทิชชู่ครับ จากนั้นก็ทิ้ง แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ก็ควรจะใช้อะไรมาบังปากไว้ แต่ปัญหาคือถ้าเราใช้มือ พอเราเดินไปก็จะเอาน้ำลายไปป้ายที่อื่นๆ ได้ ดังนั้น จึงขอแนะนำว่าเวลาไอ จาม ให้ไอ จาม ใส่ข้อพับแขน
เป็นคำแนะนำที่กองควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกาแนะนำกันครับ
ใส่หน้ากากอย่างไร
วิธีการใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องก็คือ การใส่แล้วทำให้อากาศผ่านตัวหน้ากากครับ เพราะหน้ากากจะได้กรองเอาละอองไป ส่วนการใส่หน้ากากที่ไม่มิดชิดหรือมีรูรั่วจะไม่เกิดประโยชน์ในแง่การกรองเลย อาจจะแค่ป้องกันละอองใหญ่ๆ ที่กระเด็นมาโดนหน้าเท่านั้น
วิธีการใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องก็คือ การใส่แล้วทำให้อากาศผ่านตัวหน้ากากครับ เพราะหน้ากากจะได้กรองเอาละอองไป ส่วนการใส่หน้ากากที่ไม่มิดชิดหรือมีรูรั่วจะไม่เกิดประโยชน์ในแง่การกรองเลย อาจจะแค่ป้องกันละอองใหญ่ๆ ที่กระเด็นมาโดนหน้าเท่านั้น
1. ใส่ N95 แต่ใส่ไม่มิด...ป้องกันละอองไม่ได้ ไม่เท่ 2. หน้ากากทักซิโด้ ไม่คลุมจมูก...ป้องกันไม่ได้ แต่เท่ 3. หน้ากากแสงจันทร์...โอเคครับ คลุมมิด พอป้องกันได้...ดูไม่เท่เท่าไหร่
จะเลือกเท่หรือเลือกติดหวัดก็ต้องเลือกเอาล่ะครับ
สำหรับคนที่ไปซื้อหน้ากากอนามัยมาจากร้านต่างๆ แล้วไม่แน่ใจว่าใส่ถูกหรือไม่ ผมทำเป็นคลิปมาให้ดูครับ
จะเลือกเท่หรือเลือกติดหวัดก็ต้องเลือกเอาล่ะครับ
สำหรับคนที่ไปซื้อหน้ากากอนามัยมาจากร้านต่างๆ แล้วไม่แน่ใจว่าใส่ถูกหรือไม่ ผมทำเป็นคลิปมาให้ดูครับ
การใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล
เรื่องต่อไปคือเรื่องของการล้างมือครับ
บางคนอาจจะสงสัยว่า เชื้อหวัดมันมากับอากาศ แล้วเราจะล้างมือไปทำไม ช่วยอะไรได้หรือ คงต้องย้อนกลับไปดูที่ภาพการแพร่เชื้อทางอากาศครับ จะเห็นว่าขนาดของอนุภาคที่ออกมามีตั้งแต่เล็กไม่กี่ไมครอน ไปจนกระทั่งถึง 1,000 ไมครอน เมื่ออนุภาคลอยออกมา พวกที่เล็กมากๆ จะระเหยไปและเชื้อก็ตายไป พวกที่เล็กปานกลางลอยไปได้ประมาณ 1-3 เมตร และลอยเข้าจมูกไปได้ ส่วนพวกที่ขนาดใหญ่ๆ บางทีจะติดตามมือที่เอาไปบังปากเวลาไอ จากนั้นก็ไปจับลูกบิดประตู จับโต๊ะ ทำให้เชื้อไปเปื้อนตามพื้นผิว คนที่เดินตามมาทีหลังจับเข้าไป เชื้อก็ไปอาศัยความชื้นจากเหงื่อในมือทำให้อยู่ได้นานขึ้น สุดท้ายพอเอามือไปขยี้ตา แคะจมูก หรือหยิบของเข้าปาก เชื้อโรคก็แล่นเข้าได้อย่างรวดเร็ว
เว่อร์ไปหรือเปล่า เชื้อมันจะติดตามมือได้เลยหรือไง
บางคนอาจจะมองว่าเว่อร์เกินไปหรือเปล่า มาทำให้ตระหนก งั้นมาฟังเรื่องนี้ครับ…
ชายพิการแขนขาขยับไม่ได้คนหนึ่ง ไปโรงพยาบาลเพื่อไปตรวจร่างกายตามนัดปกติ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจหน้าท้องของชายคนนั้น เป็นหน้าท้องแห้งๆ ไม่ได้สกปรกอะไร คุณคิดว่าจะต้องล้างมือหรือไม่? ทั้งที่ไม่มีอะไรเปียกชื้น
บางคนอาจจะสงสัยว่า เชื้อหวัดมันมากับอากาศ แล้วเราจะล้างมือไปทำไม ช่วยอะไรได้หรือ คงต้องย้อนกลับไปดูที่ภาพการแพร่เชื้อทางอากาศครับ จะเห็นว่าขนาดของอนุภาคที่ออกมามีตั้งแต่เล็กไม่กี่ไมครอน ไปจนกระทั่งถึง 1,000 ไมครอน เมื่ออนุภาคลอยออกมา พวกที่เล็กมากๆ จะระเหยไปและเชื้อก็ตายไป พวกที่เล็กปานกลางลอยไปได้ประมาณ 1-3 เมตร และลอยเข้าจมูกไปได้ ส่วนพวกที่ขนาดใหญ่ๆ บางทีจะติดตามมือที่เอาไปบังปากเวลาไอ จากนั้นก็ไปจับลูกบิดประตู จับโต๊ะ ทำให้เชื้อไปเปื้อนตามพื้นผิว คนที่เดินตามมาทีหลังจับเข้าไป เชื้อก็ไปอาศัยความชื้นจากเหงื่อในมือทำให้อยู่ได้นานขึ้น สุดท้ายพอเอามือไปขยี้ตา แคะจมูก หรือหยิบของเข้าปาก เชื้อโรคก็แล่นเข้าได้อย่างรวดเร็ว
เว่อร์ไปหรือเปล่า เชื้อมันจะติดตามมือได้เลยหรือไง
บางคนอาจจะมองว่าเว่อร์เกินไปหรือเปล่า มาทำให้ตระหนก งั้นมาฟังเรื่องนี้ครับ…
ชายพิการแขนขาขยับไม่ได้คนหนึ่ง ไปโรงพยาบาลเพื่อไปตรวจร่างกายตามนัดปกติ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจหน้าท้องของชายคนนั้น เป็นหน้าท้องแห้งๆ ไม่ได้สกปรกอะไร คุณคิดว่าจะต้องล้างมือหรือไม่? ทั้งที่ไม่มีอะไรเปียกชื้น
คำตอบอยู่ในภาพครับ ชายพิการคนนั้นมีการตรวจพบว่ามีเชื้อ MRSA ซึ่งเป็นเชื้อโรคดื้อยาอยู่ในช่องจมูก และเมื่อเอามือเจ้าหน้าที่ที่ตรวจหน้าท้องไปป้ายเจลเพาะเชื้อ ก็พบว่ามีเชื้อ MRSA ซึ่งเป็นเชื้อดื้อยาอยู่จริงๆ ดังนั้น หวัด...แม้ว่าจะเป็นไวรัสซึ่งแตกต่างจาก MRSA แต่ว่ามันก็มีความเสี่ยงที่จะติดได้ครับ ที่สำคัญ...ที่เราเน้นกัน เราไม่ได้ป้องกันแต่หวัดอย่างเดียว เราต้องการป้องกันโรคอื่นๆ ไปด้วยพร้อมกัน ซึ่งการล้างมือนั้นช่วยได้
การล้างมือที่ถูกวิธีมีอย่างไร
จากการรณรงค์ให้ล้างมือเป็นเวลา 10 กว่าปี อุปสรรคสำคัญ คือ จำไม่ได้ว่าต้องล้างอย่างไรครับ สมัย 10 ปีก่อน มีการล้างมือ 7 ขั้นตอน ซึ่งถ้าให้ท่องผมก็จำไม่ได้หรอกครับ (แต่ทำเป็น) และคิดว่านั่นคือสาเหตุหนึ่งที่คนอาจจะยังไม่ชอบการล้างมือให้ถูกวิธี เพราะคิดว่ายุ่งยากจนเกินไป กับการมานั่งจำว่าต้องล้างอย่างไร
การล้างมือที่ถูกวิธีมีอย่างไร
จากการรณรงค์ให้ล้างมือเป็นเวลา 10 กว่าปี อุปสรรคสำคัญ คือ จำไม่ได้ว่าต้องล้างอย่างไรครับ สมัย 10 ปีก่อน มีการล้างมือ 7 ขั้นตอน ซึ่งถ้าให้ท่องผมก็จำไม่ได้หรอกครับ (แต่ทำเป็น) และคิดว่านั่นคือสาเหตุหนึ่งที่คนอาจจะยังไม่ชอบการล้างมือให้ถูกวิธี เพราะคิดว่ายุ่งยากจนเกินไป กับการมานั่งจำว่าต้องล้างอย่างไร
ภาพนี้เป็นภาพที่ผมเห็นภาพแรกๆ เมื่อสัก 10 ปีก่อน และค่อนข้างชัดเจนครับ อาจจะนำไปลองหัดกันได้ แต่ถ้ารู้สึกว่ายังมากวิธีเกินไป เดี๋ยวเรามาดูวิธีอื่นกันครับ
การล้างมือ 6 ขั้นตอน
การล้างมือ 6 ขั้นตอน เป็นวิธีที่ทางผมรู้มาจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล รายละเอียด คือ กระทรวงสาธาณสุข วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล และหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านสาธารณสุข ได้ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนล้างมือให้ครบ 6 ขั้นตอน เพื่อลดการติดเชื้อ
วิธีจำการล้างมือ 6 ขั้นตอน แบบใหม่ง่ายมากๆ * หน้ามือ 2 ถูฝ่ามือซอกนิ้ว ปลายนิ้ว และลายเส้น * หลังมือ 2 ถูหลังมือ ซอกนิ้ว เน้นข้อต่างๆ * หมุน 2 หมุนหัวแม่มือ และข้อมือ อย่างเบาบาง
จริงๆ พออ่านเข้าแล้ว มันมีแค่ 3 ขั้นตอนเท่านั้นเองครับ เพียงแต่ว่าเค้านับมือทั้ง 2 ข้าง แยกขั้นตอนกัน ดังนั้น ง่ายมากๆ เลยจริงๆ (รายละเอียดเข้าไปดูได้ที่นี่)
แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าล้างยังไง เรามาดูคลิปตัวต่อไปกันครับ
การล้างมือ 6 ขั้นตอน เป็นวิธีที่ทางผมรู้มาจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล รายละเอียด คือ กระทรวงสาธาณสุข วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล และหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านสาธารณสุข ได้ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนล้างมือให้ครบ 6 ขั้นตอน เพื่อลดการติดเชื้อ
วิธีจำการล้างมือ 6 ขั้นตอน แบบใหม่ง่ายมากๆ * หน้ามือ 2 ถูฝ่ามือซอกนิ้ว ปลายนิ้ว และลายเส้น * หลังมือ 2 ถูหลังมือ ซอกนิ้ว เน้นข้อต่างๆ * หมุน 2 หมุนหัวแม่มือ และข้อมือ อย่างเบาบาง
จริงๆ พออ่านเข้าแล้ว มันมีแค่ 3 ขั้นตอนเท่านั้นเองครับ เพียงแต่ว่าเค้านับมือทั้ง 2 ข้าง แยกขั้นตอนกัน ดังนั้น ง่ายมากๆ เลยจริงๆ (รายละเอียดเข้าไปดูได้ที่นี่)
แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าล้างยังไง เรามาดูคลิปตัวต่อไปกันครับ
วิธีการล้างมือแบบ 6 ขั้นตอน
และคลิปนี้เป็นการล้างมือแบบเดิม แต่ผมทำเน้นๆ ให้ดูมือเดียว เพื่อให้เห็นกันชัดๆ ครับ จำง่ายๆ ครับ ส่วนที่จะเข้ามามีปัญหาคือส่วนที่แคะ แกะ เกา หรือปลายนิ้วนั่นเอง ดังนั้น เวลาล้างทุกครั้งต้องใช้ปลายนิ้วถูลงไป จำอะไรไม่ได้เลย ก็ล้างเน้นปลายนิ้วมือครับ
วิธีล้างมือ 6 ขั้นตอน "มือเดียว"
สรุปแล้วมาตรการแบบบ้านๆ ในการป้องกันเชื้อหวัดและเชื้อโรคที่มากับอากาศ มีดังนี้...
1. ไอ จามใส่ผ้าหรือกระดาษทิชชู่ (ใช้แล้วทิ้งให้เป็นที่) 2. ถ้าไม่มีจริงๆ ให้ไอ จามใส่ข้อพับแขน 3. ถ้ามีหน้ากากอนามัย ก็ให้คนที่ไอใส่ 4. ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือ น้ำ + สบู่ โดยล้างตามขั้นตอนทั้ง 6
ง่ายแค่นี้เองครับ ความจริงแล้วเรื่องการรณรงค์การรักษาสุขอนามัย ในการล้างมือและการสวมหน้ากากอนามัยนี้ ได้มีมานานแล้วครับ เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน โรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่หลายแห่ง ได้ติดป้ายรณรงค์การล้างมือและวิธีล้างมือไว้ แต่หลังจากนั้นไม่นานมีหนังสือพิมพ์บางฉบับ นำข่าวไปลงว่าที่คนป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดตายในโรงพยาบาลกันมาก เพราะหมอไม่ยอมล้างมือ ?!? แล้วข่าวก็เงียบหายไป
เมื่อหลายปีก่อน "นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ" (ที่รักษา บิ๊ก D2B) ได้รณรงค์เรื่องการล้างมือและการใช้หน้ากากอนามัยในผู้ที่เป็นหวัด และก็เช่นเดิม คือขนาดทำเป็นโครงการมีนักร้องมาประชาสัมพันธ์ สุดท้ายก็เหมือนเดิม ช่วงไข้หวัด SARS ไข้หวักนก การประชาสัมพันธ์ทางพื้นที่ข่าวทำให้มันกลายเป็นโรคที่รุนแรงน่ากลัว จนคนป่วยหลายคนก็ไม่ยอมใส่หน้ากากเพราะกลัวถูกรังเกียจ มาครั้งนี้ไข้หวัด 2009 จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะมาเริ่มต้นกัน
ล้างมือให้สะอาด ใส่หน้ากากอนามัยกันเถอะครับ
1. ไอ จามใส่ผ้าหรือกระดาษทิชชู่ (ใช้แล้วทิ้งให้เป็นที่) 2. ถ้าไม่มีจริงๆ ให้ไอ จามใส่ข้อพับแขน 3. ถ้ามีหน้ากากอนามัย ก็ให้คนที่ไอใส่ 4. ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือ น้ำ + สบู่ โดยล้างตามขั้นตอนทั้ง 6
ง่ายแค่นี้เองครับ ความจริงแล้วเรื่องการรณรงค์การรักษาสุขอนามัย ในการล้างมือและการสวมหน้ากากอนามัยนี้ ได้มีมานานแล้วครับ เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน โรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่หลายแห่ง ได้ติดป้ายรณรงค์การล้างมือและวิธีล้างมือไว้ แต่หลังจากนั้นไม่นานมีหนังสือพิมพ์บางฉบับ นำข่าวไปลงว่าที่คนป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดตายในโรงพยาบาลกันมาก เพราะหมอไม่ยอมล้างมือ ?!? แล้วข่าวก็เงียบหายไป
เมื่อหลายปีก่อน "นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ" (ที่รักษา บิ๊ก D2B) ได้รณรงค์เรื่องการล้างมือและการใช้หน้ากากอนามัยในผู้ที่เป็นหวัด และก็เช่นเดิม คือขนาดทำเป็นโครงการมีนักร้องมาประชาสัมพันธ์ สุดท้ายก็เหมือนเดิม ช่วงไข้หวัด SARS ไข้หวักนก การประชาสัมพันธ์ทางพื้นที่ข่าวทำให้มันกลายเป็นโรคที่รุนแรงน่ากลัว จนคนป่วยหลายคนก็ไม่ยอมใส่หน้ากากเพราะกลัวถูกรังเกียจ มาครั้งนี้ไข้หวัด 2009 จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะมาเริ่มต้นกัน
ล้างมือให้สะอาด ใส่หน้ากากอนามัยกันเถอะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก กระปุกดอทคอม
เขียนโดย : หมอแมว
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
- cdc.gov/flu/protect/covercough.htm
- askdrc.missouri.edu/prevention.php
- camfilfarr.com
- content.nejm.org
- ทางอินเทอร์เน็ต
เขียนโดย : หมอแมว
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
- cdc.gov/flu/protect/covercough.htm
- askdrc.missouri.edu/prevention.php
- camfilfarr.com
- content.nejm.org
- ทางอินเทอร์เน็ต
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น