'ฮิลลารี'ยันมาเพื่อกระชับมิตรไม่พูดเรื่องคุกลับ

ผ่าน ฮิลลารี คลินตัน โดยนายกฯไทยเน้นย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญและยึดมั่นในสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา ชี้ไทยยังสามารถดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศได้แม้ในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังประสบภาวะตกต่ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (21 ก.ค.) ว่า เมื่อเววลา 17.30 น. นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี และนางฮิลลารี รอดแฮม คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาแถลงข่าวถึงผลการหารือระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวต้อนรับนางฮิลลารี ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทย และว่า การหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีและนางฮิลารี คลินตันที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปนั้นเป็นประโยชน์อย่างมากต่อประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคีและเรื่องต่างๆที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน อย่างไรก็ดี เนื่องจากในขณะนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายกษิต ภิรมย์ อยู่ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ณ จังหวัดภูเก็ต ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านการต่างประเทศรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากในการร่วมแถลงข่าวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศไทยและสหรัฐฯได้เป็นมิตรที่ดีต่อกันมายาวนานกว่า 176 ปี ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศก็เต็มไปด้วยมิตรภาพแลความเข้าใจที่ดีต่อกันเสมอมา ซึ่งในระหว่างการหารือในวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงให้รัฐมนตรีฯทราบถึงการพัฒนาด้านการเมืองในประเทศไทยรวมถึงนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำว่าประเทศไทยยังสามารถดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศได้แม้ในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังประสบภาวะตกต่ำในขณะนี้

“รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นในการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้กับการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ อีกทั้งยังพร้อมที่จะให้คำปรึกษาและหารือร่วมกับภาคเอกชน นายกรัฐมนตรียังกล่าวเน้นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญและยึดมั่นในสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาและความต่อเนื่องของการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไปของสินค้าส่งออกไทยไปยังตลาดสหรัฐฯ” นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ในฐานะประธานอาเซียน นายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีที่สหรัฐฯตัดสินใจลงนามในสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือ(Treaty of Amity and Cooperation) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯพร้อมด้วยรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจะลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นการแสดงถึงความสำคัญที่สหรัฐฯให้กับอาเซียนด้วย

รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากความระลึกถึงไปยังประธานาธิบดีบารัค โอบามาในโอกาสนี้ด้วย

ขณะที่นางฮิลาลี คลินตัน แถลงว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งเป็นสารที่ชัดเจนจากนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ต้องการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ตนเชื่อในกระบวนการประชาธิปไตยของไทย และมั่นใจว่ารัฐบาลจะนำพาประเทศไทยไปได้ แม้จะมีปัญหาทางภายในประเทศบ้างก็ตาม และไทยมีศักยภาพที่จะนำอาเซียนไปสู่ความรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้ในช่วงท้ายนางคลินตันได้ตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีสื่อสหรัฐฯ เผยแพร่ข่าวหน่วยข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) แอบสร้างคุกลับในประเทศไทย เพื่อใช้กุมขังผู้ก่อการร้ายสากล ซึ่งนางฮิลาลี คลินตันปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว โดยกล่าวว่า ไม่ขอพูดเรื่องนี้ เพราะการเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ เพื่อแสวงหาความร่วมมือ และกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งไทยเป็นพันธมิตรสำคัญ ส่วนตัวชอบเดินทางมาประเทศไทย เพราะการเดินทางมาไทยครั้งล่าสุดก็ยังเป็นทริปที่ประทับใจ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ไทยรัฐ